คำสั่งคำร้องที่ 1203/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218,219 ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 เห็นว่าฎีกาที่ว่าศาลอุทธรณ์รับฟังพยานโจทก์แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้รับฟังพยานหลักฐานทั้งปวงในสำนวน และไม่ได้นำข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบ ทั้งหมดมาเป็นหลักวินิจฉัย ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 165,167) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,70,148,157ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองไว้คนละ 1 ปี ทางนำสืบของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา อยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยที่ 2เป็นเงิน 3,000 บาท ด้วย ทางนำสืบของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ2,000 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงโทษจำเลยที่ 2 ไว้ มีกำหนด 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 161) จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 164)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว แม้การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ เป็นการแก้ไขมากก็ตามแต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 2 อีกสถานหนึ่ง และรอการลงโทษจำคุกนั้น มิใช่เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 2 คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์หยิบยกพยานหลักฐานโจทก์เพียงบางอย่างมาวินิจฉัย รับฟังลงโทษจำเลยที่ 2 โดยมิได้หยิบยกพยานหลักฐานทั้งปวง ในสำนวนมาวินิจฉัยเป็นการไม่ชอบ เป็นการฎีกาโต้เถียงดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share