แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้โจทก์ฎีกา และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ฤดูทำนาในปีนี้ จำเลยได้ว่าจ้างไถดะ นาพิพาทไว้ตลอดทั้งแปลงเป็นเงิน 600 บาท แต่โจทก์และบริวารไปไถแปรและหว่านข้าวเปลือกลงในนาพิพาทจนเต็มแปลง การกระทำของโจทก์เป็นการโต้แย้ง รบกวน ริดรอนสิทธิและผลประโยชน์ของจำเลยเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของจำเลย จำเลยจึงยื่นคำร้องขอตามความในมาตรา 264 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งขอให้ศาลออกหมายเรียกตัวโจทก์มาสอบถามและให้โจทก์วางเงินค่าเช่าทำนาพิพาทปีละไม่น้อยกว่า 1,500 บาท จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา เฉพาะปีนี้ขอให้โจทก์วางค่าจ้างไถดะ 600 บาทรวมเป็น 2,100 บาท โปรดหมายเรียกโจทก์มาพิจารณาสั่งการตามคำร้องของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (กากสำนวนอันดับ 5)
จำเลยชำระค่าคำร้องมา 20 บาท
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า นาพิพาทในบริเวณเส้นหมึกสีแดงและภายในเส้นหมึกสีดำตามแผนที่ท้ายฟ้องโจทก์โดยโจทก์ได้สิทธิครอบครองให้ลบชื่อจำเลยทั้งสองออกจาก น.ส.3เลขที่ 119 เล่ม 10 หน้า 94 หมู่ที่ 10 ตำบลอุ่มเม่าอำเภอธวัชบุรี และระบุชื่อโจทก์เป็นเจ้าของแทน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา (อันดับ 89)
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นนัดพร้อมโจทก์จำเลยในวันนัดพร้อมศาลชั้นต้นสอบโจทก์จำเลยแล้วจึงให้เสนอคำร้องคำคัดค้าน และรายงานการนัดพร้อมไปเพื่อศาลฎีกาพิจารณาต่อไป(กากสำนวนอันดับ 1,6)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยมิได้ฟ้องแย้งเข้ามาจึงไม่มีคำขอของจำเลยในอันที่จะคุ้มครองประโยชน์ได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 264 เพราะกรณีตามคำร้อง ถ้าจำเลยได้รับความเสียหายอย่างไรก็เป็นเรื่องที่จะไปว่ากล่าวกันเป็นเรื่องใหม่ไม่อาจขอมาในคดีนี้ได้ จึงให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ