แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ป.วิ.พ.มาตรา182ได้ให้อำนาจศาลไว้ว่าถ้าทำการชี้สองสถานแล้วจะทำให้การพิจารณาง่ายเข้าก็ให้ทำการชี้สองสถานได้ดังนั้นหากคดีไม่มีประเด็นข้อยุ่งยากศาลก็ไม่จำต้องชี้สองสถาน จำเลยยื่นคำให้การวันที่1เมษายน2526ศาลชั้นต้นกำหนดสืบพยานโจทก์ในวันที่2พฤษภาคม2526เป็นเวลาถึง1เดือนไม่ถือว่าเป็นการเร็วเกินไป จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานความว่าตัวจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัดทนายจำเลยไม่ทราบว่าจังหวัดไหนติดต่อกันไม่ได้จำเลยเพิ่งเดินทางกลับมาวันนี้เมื่อศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันนี้จึงไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานได้ทันภายใน3วันก่อนวันสืบพยานโจทก์เป็นเหตุผลอันไม่สมควรที่จะให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานของจำเลย จำเลยไม่ยื่นบัญชีระบุพยานถือว่าไม่มีพยานมาสืบไม่มีเหตุที่จะให้พิจารณาคดีใหม่.
ย่อยาว
sb
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายสัมภาระพร้อมบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยให้การว่า สัญญาที่จำเลยทำกับนายสมพรซึ่งเป็นสามีโจทก์และโจทก์ เป็นสัญญต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสักญญาเช่าธรรมดาโจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า ขอให้ยกฟ้อง
ในวันที่จำเลยยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การของจำเลยแล้วมีคำสั่งว่าคดีไม่ต้องชี้สองสถานให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 2พฤษภาคม 2526 เวลา 13.30 นาฬิกา ซึ่งจำเลยรับทราบหมายนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 12 เมษายน 2526
ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์สืบพยานโจทก์ได้ 1 ปากโจทก์แถลงติดใจสืบพยานโจทก์เท่านี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดสืบพยานจำเลยในวันที่ 24 พฤษภาคม 2526 เวลา 13.30 นาฬิกา ซึ่งทนายจำเลยทราบวันนัดสืบพยานจำเลยในวันที่ 2 พฤษภาคม 2526 นั่นเอง
ในวันที่ 2 พฤษภาคม อันเป็นวันสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องว่าตัวจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัด ทนายจำเลยไม่ทราบว่าจังหวัดไหนติดต่อกันไม่ได้ขอยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลในวันนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเหตุผลที่อ้างไม่เป็นเหตุที่จะรับบัญชีระบุพยานจำเลยได้ ให้ยกคำร้อง และมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 2 พฤษภาคม2526 ว่า เมื่อจำเลยไม่ยื่นบัญชีระบุพยานแล้วเท่ากับจำเลยไม่มีพยานที่จะสืบ จึงไม่มีเหตุต้องนัดสืบพยานจำเลยตามที่นัดไว้คดีเสร็จสำนวน ให้ฟังคำพิพากษาในวันที่ 24 พฤษภาคม 2526เวลา 13.30 จำเลยทราบคำสั่งของศาลดังกล่าวแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมกับขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นสั้งให้งดการชี้สองสถานในวันที่ 27 เมษายน 2526 และให้สืบพยานโจทก์ในวันที่ 2พฤษภาคม 2526 ซึ่งเร็วเกินไปการชี้สองสถานยังคลาดเคลื่อนอยู่นั้นเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งในคำให้การของจำเลยในวันที่ 1 เมษายน 2526นั้นเองว่าคดีไม่ต้องชี้สองสถาน ให้นัดสืบพยานโจทก์วันที่ 2พฤษภาคม 2526 สำหรับการชี้สองสถานนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 182 ได้บัญญัติให้อำนาจศาลไว้ว่า ถ้าหากจะกระทำให้การพิจารณาง่ายเข้าก็ให้ศาลมีอำนาจทำการชี้สองสถานได้ ซึ่งหมายความว่าหากคดีไม่มีประเด็นข้อยุ่งยากในการพิจารณาคดีแล้วศาลชั้นต้นไม่จำต้องชี้สองสถานและสั่งให้นัดสืบพยานโจทก์หรือจำเลยก็ได้ การสืบพยานนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 184 ให้ศาลกำหนดวันสืบพยานเมื่อระยะเวลาล่วงพ้นไปไม่ต่ำกว่าสิบวันนับแต่วันยื่นคำให้การและได้ความว่าจำเลยยื่นคำให้การวันที่ 1 เมษายน 2526 ศาลชั้นต้นกำหนดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2526 เป็นเวลาถึง 1 เดือนการที่ศาลชั้นต้นไม่ชี้สองสถานและนัดสืบพยานโจทก์ไว้นั้น จึงไม่เป็นการเร็วเกินไป คำสั่งของศาลชั้นต้นชอบแเป็นการเร็วเกินไป คำสั่งของศาลชั้นต้นชอบแล้ว
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นไม่รับบัญชีระบุพยานของจำเลยโดยเห็นว่าเหตุไม่เพียงพอนั้น ได้ตรวจดูคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลของจำเลยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2526 ว่า “ในคดีนี้ครั้งแรกศาลนัดชี้สองสถานก่อนในวันที่ 27 เมษายน 2526 ตัวจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัด ทนายจำเลยไม่ทราบว่าจังหวัดไหน ติดต่อกันไม่ได้จำเลยเพิ่งเดินทางกลับมาวันนี้ เมื่อศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันนี้จำเลยจึงไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานได้ทันภายใน 3 วันก่อนวันสืบพยานโจทก์ จึงขอยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลในวันนี้ฯ” ซึ่งศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทนายจำเลยลงชื่อรับทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ตั้งแต่วันที่่ 12 เมษายน 2526 เป็นเรื่องที่ทนายจำเลยควรแจ้งให้จำเลยทราบอย่างยิ่งถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ และมีเวลาพอที่จะปรึกษาหารือกับจำเลยเรื่องการอ้างพยานหลักฐานของจำเลย และเป็นความผิดของจำเลยเองด้วยที่รู้ว่าตนถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดี จำเลยควรสนใจติดต่อกับทนายจำเลยให้ทราบถึงการไปต่างจังหวัดของจำเลย การที่จำเลยไปต่างจังหวัดโดยไม่บอกกล่าวให้ทนายจำเลยทราบเช่นนี้นับว่าเป็นการไม่นำพาและไม่เอาใจใส่ของจำเลยเกี่ยวแก่คดีของตน ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานจำเลยดังเหตุผลดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นเหตุผลอันไม่สมควรที่จะให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานของจำเลยแต่อย่างใด ที่ศาลชั้นต้นไม่รับบัญชีระบุพยานของจำเลยนั้นชอบด้วยเหตุผลตามกฎหมายแล้ว ที่จำเลยฎีกาขอให้รับบัญชีระบุพยานและพิจารณาคดีนี้ใหม่นั้น เห็นว่าเมื่อจำเลยไม่ยื่นบัญชีระบุพยานก็ต้องถือว่าจำเลยไม่มีพยานจำเลยมาสืบต่อศาล ไม่มีเหตุตามกฎหมายในอันที่จะให้มีการพิจารณาคดีนี้ใหม่
พิพากษายืน.