แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกาของจำเลยจำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย เพราะฎีกาข้อ 2 จำเลยโต้แย้งว่าศาลหาได้หยิบยกพยานหลักฐานจำเลยขึ้นพิจารณาหากได้พิจารณาแล้วคดีจำเลยควรชนะ และปัญหาเอกสาร จ.1เป็นลายเซ็นของโจทก์ร่วมแต่โจทก์ร่วมปฏิเสธลายเซ็นถือเป็นปัญหาสำคัญ แต่ศาลชั้นต้นหารับพิจารณาไม่ และศาลชั้นต้นนำเอาเรื่องเก่าซึ่งเป็นเหตุจูงใจขึ้นมาพิจารณาด้วยเหล่านี้ผิดกระบวนพิจารณา โปรดรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์และโจทก์ร่วมต่างได้รับสำเนาแล้ว (อันดับ 86)
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 จำคุก 6 เดือน ฯลฯ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 81)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 86)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยที่ว่า ศาลอุทธรณ์ไม่หยิบยกพยานหลักฐานของจำเลยขึ้นวินิจฉัยเกี่ยวกับเอกสารหมาย จ.1และนำเอาการกระทำของจำเลยในอดีตมาประกอบการวินิจฉัยด้วยเป็นการไม่ชอบนั้น เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง