แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันไม่เกิน 200,000 บาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงฎีกาโจทก์เป็นฎีกาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาที่โต้แย้งเกี่ยวกับการ ตีความหรือแปลความตามสัญญา จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และเป็น ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ามาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งเป็นสาระสำคัญแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย โปรดมีคำสั่งให้ รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 93)
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาให้จำเลยคืนที่ดินโฉนดเลขที่ 536 เล่ม 6 หน้า 36 และที่ดินตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 2176,2181(ที่ถูกน่าจะเป็น 2076,2081) ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช แก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอา คำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ห้ามจำเลยและบริวาร เข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์อีกต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 88)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 93)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์โอน ที่ดินตามฟ้องให้แก่จำเลยซึ่งเป็นบุตรตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่โจทก์และนายเกตุ สามีโจทก์ทำไว้ต่อศาลชั้นต้น มิใช่โอนให้โดยเสน่หาโจทก์จึงฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกาว่า การให้ที่ดินแก่จำเลยมิใช่เป็นการให้ที่โจทก์ต้อง ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่เป็นการให้โดยการแปลงหนี้ใหม่ เห็นว่าฎีกาของโจทก์ดังกล่าวเป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงมิใช่ฎีกาโต้แย้งเกี่ยวกับการตีความหรือแปลความตามสัญญาแต่อย่างใดเมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน200,000 บาท ฎีกาของโจทก์จึงต้องห้ามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับ ฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
