คำสั่งคำร้องที่ 117/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยได้โต้แย้งความไม่ถูกต้องของสำเนาเอกสารและ สืบพยานคัดค้านไว้แล้วในศาลชั้นต้น ดังนั้น หากจำเลยประสงค์ จะอ้างต้นฉบับเพื่อนำมาสนับสนุนข้อโต้แย้งและเพื่อหักล้าง สำเนาเอกสารดังกล่าว ก็ชอบที่จะดำเนินการเสียให้ถูกต้อง ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น การที่จำเลยเพิ่งจะมาขอ ในชั้นฎีกาจึงไม่มีเหตุผลอันควรอนุญาต

ย่อยาว

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทตามฟ้อง พร้อมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินพิพาท กับส่งมอบที่ดินคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อย ห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องอีกต่อไปกับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ฯลฯ จำเลยฎีกา คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยยื่นคำร้องว่า คดีนี้โจทก์ได้อ้างโฉนดที่ดินเลขที่ 2111 ตำบลวัดกัลยาณ์ (บางกอกใหญ่ฝั่งใต้)อำเภอธนบุรี (บางกอกใหญ่) กรุงเทพมหานคร เป็นพยานแต่นำภาพถ่ายเอกสารซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินรับรองไว้เท่านั้นมาสืบพยานในศาลชั้นต้น หาได้นำโฉนดที่ดินต้นฉบับมาเป็นพยานเอกสารในคดีนี้ จำเลยได้ทำการสืบพยานคัดค้านสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้แล้วเพราะโฉนดที่ดินเลขที่ดังกล่าวนี้ ต้นฉบับเดิม เป็นโฉนดที่ดินสองฉบับรวมกัน โฉนดที่ดินต้นฉบับเดิมนี้มีอยู่ที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาธนบุรี ก่อนที่ศาลฎีกาจะพิพากษาคดีนี้ โปรดออกหมายเรียกพยานเอกสารดังกล่าวด้วยและเพื่อความสะดวก จำเลยขอรับหมายเรียกพยานเอกสารเพื่อนำไปส่งเอง โปรดอนุญาต

ศาลฎีกาสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว จำเลยโต้แย้งความไม่ถูกต้องของสำเนาเอกสาร โดยอ้างว่าได้สืบพยานคัดค้านไว้แล้วในศาลชั้นต้น ดังนั้น หากจำเลยประสงค์จะอ้างต้นฉบับ เพื่อนำมาสนับสนุนข้อโต้แย้งและเพื่อหักล้างสำเนาเอกสาร ดังกล่าว ก็ชอบที่จำเลยจะดำเนินการเสียให้ถูกต้องในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น การที่จำเลยเพิ่งจะมาขอในชั้นฎีกา จึงไม่มีเหตุผลอันควรอนุญาต ให้ยกคำร้อง”

Share