คำสั่งคำร้องที่ 1168/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา มีเหตุผลที่จะชนะคดีอย่างแน่นอน โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายจำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 108)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยอพยพขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากอาคารเลขที่ 120/324-120/325 ถนนราชปรารภแขวงถนนพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จนหมดสิ้น ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างจำนวน 44,000 บาท และค่าเสียหายในอัตราวันละ 2,000บาท จนถึงวันฟ้องเป็นเงิน 24,000 บาท รวม 28,000 บาท ให้แก่โจทก์ และให้จำเลยชำระค่าเสียหายในอัตราวันละ 2,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากอาคารที่เช่าหมดสิ้น จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชำระเงินจำนวน 262,803.33 บาทให้จำเลยพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จคำขอของโจทก์และจำเลยนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์ชำระเงินจำนวน130,611.32 บาทแก่จำเลย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยต่างฎีกา เฉพาะโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 96,97,95)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ แต่โจทก์ไม่วางหนี้ประกันภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด (อันดับ 60,62)
ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีตามคำขอของจำเลย (อันดับ 72)และต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์สินราคา 1,745,000 บาทของโจทก์แล้วโจทก์จึงยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ถอนการบังคับคดีโดยโจทก์พร้อมจะนำหลักประกันวางแทน และต่อมาโจทก์ได้นำโฉนดที่ดิน1 ฉบับของโจทก์มาวางเป็นหลักประกันและทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 74,77,88) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับคดีและได้แจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ (อันดับ 84,85)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าโจทก์หาประกันสำหรับต้นเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นเวลา 4 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้อง

Share