คำสั่งคำร้องที่ 1166/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีไว้จนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือมีการตกลงกันตามคำร้องลงวันที่ 4 ตุลาคม 2526ต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 150)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
สืบเนื่องจากโจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าโจทก์ตกลงขายและจำเลยตกลงซื้อที่ดินพิพาท 3 แปลงพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าว ในราคา 1,500,000 บาท โดยจำเลยจะชำระราคาภายใน 10 เดือนนับแต่วันทำสัญญายอม ฯลฯ หากจำเลยผิดนัดไม่ชำระราคา ให้ถือว่าสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินตามสัญญายอมเป็นอันยกเลิก และจำเลยยอมให้โจทก์บังคับให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ทันที กับยอมชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ในอัตราเดือนละ 3,000 บาทนับแต่วันทำสัญญายอมเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารทั้งสิ้นจะออกไปจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น และต่อมาโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันอีกเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2524ข้อหนึ่งว่า โจทก์ยอมให้จำเลยและบริวารอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าวจนถึงวันที่ 15 กันยายน 2524 และโจทก์ยอมให้จำเลยซื้อที่พิพาทคืนในราคา 1,800,000 บาท โดยจำเลยจะชำระเป็นเงินสดหรือตั๋วแลกเงินที่ธนาคารรับรองภายในวันที่ 15กันยายน 2524 หากพ้นกำหนดดังกล่าวแล้วจำเลยไม่นำเงินมาชำระให้ครบถ้วนให้ถือว่าจำเลยผิดนัด ยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที โดยจำเลยและบริวารยอมให้บังคับจับขังหากไม่ยอมออกจากที่ดินพิพาทดังกล่าว ฯลฯ
ต่อมาวันที่ 16 กันยายน 2524 โจทก์ยื่นคำร้องว่าครบกำหนดแล้วจำเลยผิดนัดไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้ศาลออกหมายจับตัวจำเลย ฯลฯ ศาลหมายเรียกจำเลยมาสอบถาม (อันดับ 67)
ศาลชั้นต้นนัดพร้อม (อันดับ 71)
วันนัดพร้อม จำเลยแถลงว่าขอเวลาภายในเดือนมกราคม 2525 จะจัดการขนย้ายออกไปให้เรียบร้อย โจทก์ยอมให้เวลาตามขอหากยังไม่ปฏิบัติอีกขอให้ศาลบังคับคดี ฯลฯ (อันดับ 73)
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2525 โจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลว่าครบกำหนดเวลาแล้ว จำเลยไม่ยอมขนย้ายออกไป ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ออกหมายจับตัวจำเลยและบริวารมากักขังไว้จนกว่าจะออกไปจากที่พิพาทศาลชั้นต้นนัดพร้อม (อันดับ 74 แผ่นที่ 2)
วันนัดพร้อม จำเลยทราบนัดแล้วไม่มาศาล ทนายโจทก์ยืนยันว่าจำเลยยังไม่ขนย้ายออกไป ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการขัดหมายเรียกของศาลให้หมายจับจำเลย (อันดับ 78)
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2525 จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าคดีมีทางตกลงกันได้ และจำเลยมิได้จงใจไม่มาศาลตามนัด ขอให้งดหมายจับและนัดพร้อม ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยทราบหมายนัดโดยชอบแล้วไม่แจ้งเหตุก่อนวันนัด ไม่มีเหตุถอนหมายจับ บังคับคดีตามกฎหมาย(อันดับ 79)
ต่อมาวันที่ 4 ตุลาคม 2526 จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยในคดีอื่นขอให้เพิกถอนนิติกรรมการขายฝากคดีนี้แล้วคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา คดีทั้งสองเกี่ยวพันกันเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมขอให้ทุเลาการบังคับคดีนี้ไว้ก่อนและหากหมายจับจำเลยกับพวกไว้ก็ขอให้เพิกถอนหมายจับเพื่อรอฟังผลอีกคดีหนึ่ง (อันดับ 86)
โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 93)
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 139,140)
ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำขอของโจทก์แล้ว (อันดับ 132)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ ยกคำร้อง

Share