คำสั่งคำร้องที่ 116/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็น ปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยมีเหตุอันควรให้ศาลฎีกาได้วินิจฉัย เกี่ยวกับการที่จำเลยได้มียาเสพติดชนิดวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 คือ เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง เป็นปริมาณเพียงเล็กน้อย จะมีเหตุอันควรบรรเทาโทษหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้เพื่อ พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยในสถานเบาโดยโทษจำคุกให้เป็นรอการลงโทษไว้ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4,6,62,106 ที่แก้ไขแล้วให้จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุสมควร รอการลงโทษจำคุกให้จำเลย
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 22)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 27)

คำสั่ง
คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี ฎีกาของจำเลยที่ว่าพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุ สมควรลงโทษจำเลยสถานเบา ขอให้รอการลงโทษ แก่จำเลยนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share