คำสั่งคำร้องที่ 1140/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาโจทก์ล้วนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น คดีนี้มีทุนทรัพย์ ชั้นฎีกา 185,000 บาท โจทก์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับ โจทก์เห็นว่า ฎีกาที่ว่า นางสังวาลย์ไพลวัล มารดาโจทก์ครอบครองบ้านพิพาทโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนา เป็นเจ้าของเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาท ฟ้องแย้งของจำเลยขาดอายุความ ฟ้องแย้งของจำเลย โต้แย้งกรรมสิทธิ์แต่ไม่เสียค่าขึ้นศาล จะเป็นการต่อสู้เรื่อง กรรมสิทธิ์หรือไม่ การที่จำเลยไม่ยื่นคำแก้อุทธรณ์ ศาลจะต้อง พิจารณาคดีฝ่ายเดียวและพิจารณาให้เป็นคุณแก่โจทก์การที่จำเลยใช้สิทธิโดยไม่สุจริตจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ และหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทของกำนันน่าเชื่อถือ มากกว่าหนังสือรับรองของชาวบ้าน เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ด้วย หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านพิพาท ห้ามจำเลยและบริวารเข้ามาเกี่ยวข้องและรบกวน การครอบครองบ้านพิพาทอีกต่อไป ให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้โจทก์ จำนวน 300 บาท และวันละ 50 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าโจทก์จะได้รับมอบบ้านพิพาทจากจำเลย และให้จำเลยส่งมอบ ทะเบียนบ้าน และมอบการครอบครองบ้านพิพาทให้โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 251) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 254)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้ประเด็นข้อพิพาทในชั้นอุทธรณ์มีเพียงว่า บ้านพิพาทเป็นมรดกของนางสังวาลย์ไพรวันหรือไพลวัลหรือพรายวรรณหรือไม่ และโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า บ้านพิพาทมิใช่มรดกของนางสังวาลย์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ฎีกาโต้เถียงว่าบ้านพิพาทเป็นมรดกของนางสังวาลย์ โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางสังวาลย์และได้รับโอนมาโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงมีอำนาจฟ้องเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง าตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share