คำสั่งคำร้องที่ 1129/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วเห็นว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 1756 ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานและจำนองเป็นประกันหนี้ไว้กับโจทก์มีราคาประมาณ 20 ล้านบาท ประกอบกับโรงงานของจำเลยที่ 1ยังดำเนินกิจการอยู่ จำเลยทั้งสองพอมีเงินเสียค่าธรรมเนียมศาลได้มิได้ยากจนจริง ให้ยกคำร้องขอฟ้องฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสองหากประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน15 วัน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 1756 ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานจำเลยที่ 1 แม้จะมีราคาถึง 20 ล้านบาท แต่ก็เป็นทรัพย์ที่จำนองไว้กับธนาคารโจทก์ และที่โรงงานจำเลยที่ 1 เปิดดำเนินกิจการอยู่ก็เพราะมีภาระผูกพันในหนี้สินที่ต้องซื้อวัตถุดิบมาผลิตขายโดยอาศัยเครดิตซื้อเชื่อในราคาสูง เมื่อผลิตแล้วก็ขายในราคาปกติ กำไรที่ได้มาพอหมุนเวียนให้กิจการพออยู่ได้เท่านั้นจำเลยทั้งสองยังมีฐานะยากจนอยู่และคำฟ้องฎีกาของจำเลยทั้งสองมีมูลที่จะชนะคดี โปรดมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองฟ้องฎีกาอย่างคนอนาถาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 156 แผ่นที่ 3)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ชำระค่าขึ้นศาลมา 200 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน2,530,324.37 บาท ซึ่งเป็นยอดหนี้ใกล้เคียงพร้อมดอกเบี้ยโดยคิดอย่างไม่ทบต้นอัตราร้อยละ 11.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่26 มกราคม 2524 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบให้ยึดทรัพย์จำนองและทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสามออกขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้โจทก์จนครบ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 138,135,151)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 152)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามทางไต่สวนยังไม่พอฟังว่าจำเลยทั้งสองยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาล ให้ยกคำร้อง หากจำเลยทั้งสองประสงค์ที่จะดำเนินคดีต่อไป ให้นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้

Share