คำสั่งคำร้องที่ 1121/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ ที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาทจำเลยฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการ รับฟังพยานหลักฐาน อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด จำเลยเห็นว่า จำเลยได้ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ได้มีคำวินิจฉัย พยานหลักฐานและพยานบุคคลผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน และการฟังคำบอกเล่ามาวินิจฉัยให้จำเลยแพ้คดี เป็นการรับฟังพยาน และวินิจฉัยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของ จำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยถึงแก่ความตายนายวิรัชอุดมโภชน์ บุตรของจำเลยยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 9 ตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 16696 ตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ของโจทก์ออกไปจากที่ดินของโจทก์และห้ามจำเลย กับบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ให้แก่โจทก์ปีละ 1,200 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลย และบริวารจะรื้อถอนบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างและส่งมอบที่ดิน คืนโจทก์ ยกฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 128) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 134)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยล้วนกล่าวอ้างว่าพยานหลักฐานจำเลยมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าจำเลยครอบครอง ที่ดินพิพาทไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ เป็นเวลากว่าสิบปี จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการ ครอบครองปรปักษ์ เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยาน หลักฐานของศาลอันเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share