แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากจำเลยที่ 2 ได้ตรวจสำนวนคดีแล้วปรากฏว่าบันทึกคำให้การของนายบุญลือ ใจช่วง ในชั้นสอบสวนตำรวจทางหลวงท่าม่วง ฉบับลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2520 บันทึกการเปรียบเทียบที่ 148/2520 สถานีตำรวจทางหลวงท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีฉบับลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2520 ข้อเท็จจริงและความเห็นของพนักงานสอบสวนตำรวจทางหลวงท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เกี่ยวกับคดีซึ่งเอกสารดังกล่าวรวมอยู่ในสำนวนของศาลแล้วแต่ไม่มีการอ้างเป็นพยานหลักฐานแต่อย่างใด จำเลยที่ 2 เพิ่งทราบว่าเอกสารดังกล่าวไม่ได้ถูกอ้างเป็นพยาน เนื่องจากทนายความคนเดิมไม่ได้แจ้งให้ทราบ ประกอบกับเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่สำคัญอันเป็นข้อแพ้ชนะคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอศาลฎีกาได้โปรดรับเอกสารดังกล่าวไว้เป็นพยานหลักฐานด้วย โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยที่ 2 แถลงว่าได้ส่งสำเนาคำร้องให้แก่โจทก์แล้ว (อันดับ 296)
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับอีกคดีหนึ่งโดยเรียก นายฐากูรหรือบุญส่งจาวสุวรรณวงษ์ บริษัทพิพัทธ์ประกันภัยจำกัดและนายสนิทจาวสุวรรณวงษ์ ว่าโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ตามลำดับ และเรียกนายประดิษฐ์ จันทมาศ นายบุญธรรม แสนงาม และนายบุญลือ ใจช่วงว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1,2 ร่วมกันชดใช้เงินให้โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 158,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 1 ให้จำเลยที่ 1,2 ร่วมกันชดใช้เงิน 206,250 บาท ให้โจทก์ที่ 2 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จากเงิน 200,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระแก่โจทก์โจทก์ที่ 2 เสร็จ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา (อันดับ 266)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 295)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยที่ 2 อ้างว่า จำเลยที่ 2ไม่ทราบว่าเอกสารที่จำเลยที่ 2 ขออ้างเป็นพยานเพิ่มเติม ไม่ได้มีการอ้างเป็นพยานหลักฐานไว้ เนื่องจากทนายความคนเดิมไม่ได้แจ้งให้ทราบนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่มี เหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้ยกคำร้อง