แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ในเรื่องทุเลาการบังคับคดี เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะคู่ความจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้ไม่รับฎีกาจำเลยทั้งสามจำเลยทั้งสามเห็นว่า การที่ศาลสั่งรับอุทธรณ์ในเรื่องตีราคาทรัพย์จำนองแล้วเมื่อถึงวันนัดพิจารณาหลักประกัน ศาลควรสั่งให้งดพิจารณาหลักประกันเพื่อรอผลคำสั่งของศาลสูงก่อน ปัญหา นี้ไม่ต้องห้ามฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสามด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันรับผิดชำระหนี้จำนวน 10,747,117.47 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.5 ต่อปีในต้นเงิน 9,490,910.91 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดในการชำระหนี้จำนวนดังกล่าวเป็นเงิน 5,709,785.61 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.5 ต่อปีในต้นเงิน 5,275,291.48 บาท นับแต่วันที่ 12 มีนาคม 2528 เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยทั้งสามจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันไถ่ถอนจำนองที่ดินตามโฉนดเลขที่ 242ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมสิ่งปลูกสร้างไถ่ถอนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 96,97ตำบลกระแซง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ไถ่ถอนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 331 ตำบลจานใหญ่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ไถ่ถอนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 1917,1918ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และไถ่ถอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 2433 ตำบลจานใหญ่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปจากโจทก์หากจำเลยไม่ไถ่ถอนที่ดินที่จำนอง ไว้ให้นำที่ดินที่จำนองออกขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ และหากขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดในส่วนของแต่ละคนที่ขาดอยู่จนครบ
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า ให้ศาลชั้นต้นตีราคาทรัพย์สินที่จำนอง ถ้าไม่พอชำระต้นเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีกำหนด5 ปี ก็ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันหาประกันมาให้ครบ ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับแก่จำเลยทั้งสาม หรือถ้าจำเลยที่ 3 ผู้เดียวหาประกันมาให้ครบตามจำนวนที่ตนจะต้องรับผิดจนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับเฉพาะจำเลยที่ 3 ไว้ในระหว่างอุทธรณ์ มิฉะนั้นให้ยกคำร้องวันนัดพร้อมเพื่อตีราคาทรัพย์จำนอง จำเลยทั้งสามยื่นคำแถลงว่า ทรัพย์จำนองทั้งหมดมีราคาพอชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา โจทก์แถลงว่าทรัพย์จำนองรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างมีราคาเพียง5,820,000 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสามนำหลักทรัพย์มาวางเพิ่มเพื่อให้พอตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภายใน 15 วันและนัดพิจารณาหลักประกัน จำเลยทั้งสามอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว(อันดับ 15,18)
วันนัดพิจารณาหลักประกัน จำเลยทั้งสามไม่มาศาลและไม่นำหลักประกันมาวาง ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับ (อันดับ 20)
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 21)
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำหลักทรัพย์มาวางเพิ่ม แต่จำเลยมิได้นำมาวางศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นถือว่า จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์จึงชอบแล้วให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเสีย (อันดับ 31 แผ่นที่ 3)
จำเลยทั้งสามฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 35)
จำเลยทั้งสามจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 39)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เมื่อปรากฏตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ว่า ที่ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ชอบแล้ว จึงมีผลเท่ากับศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ไปแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องรอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสามชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ