แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของผู้ร้องเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 50,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของผู้ร้อง
ผู้ร้องเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการที่ศาลชั้นต้นไม่รับฟังเอกสารหมาย ร.6 เพราะเหตุที่ผู้ร้องไม่ได้ส่งสำเนาให้โจทก์ 3 วันก่อนสืบพยานผู้ร้องนั้นเป็นการชอบแล้ว ผู้ร้องเห็นว่าเป็นการพิพากษาในประเด็นข้อกฎหมาย ฉะนั้นผู้ร้องย่อมมีสิทธิฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวได้โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของผู้ร้องไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 57 แผ่นที่ 2)
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดตะแกรงกลมทำในประเทศเยอรมันขนาด2×8ฟุตยี่ห้อแอตวานส์2 ลูกเครื่องกระเทาะข้าวเปลือกสีส้ม ขนาด 10×10 นิ้ว ทำในประเทศไทย ตราคนติดป้ายเง็กเซ็งฮวด พร้อมขาตั้ง 1 เครื่องและเครื่อง หินขัดข้าวขาวขนาด 14×16 นิ้ว ทำในประเทศไทย ไม่มียี่ห้อ จำนวน 3 ชุด ราคารวมประมาณ 37,000 บาท โดยโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องว่าทรัพย์ที่ยึดดังกล่าวทั้งหมดเป็นของผู้ร้องมิใช่ของจำเลยขอให้ปล่อยทรัพย์ ที่ยึดศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 49)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 53)
คำสั่ง
ศาลไม่รับฟังเอกสารของผู้ร้อง เนื่องจากผู้ร้องไม่ส่งสำเนาให้โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน เป็นการใช้ดุลพินิจอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นผู้ร้องจึง ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้องการยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ยอมรับฎีกา ไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาล จึงให้คืนค่าขึ้นศาล 160 บาทแก่ผู้ร้อง