คำสั่งคำร้องที่ 1091/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้น ฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ประกอบด้วยกฎหมาย และคดีนี้เกิดก่อนที่จะมีการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความความแพ่งใหม่ จึงไม่น่าจะมี ผลย้อนหลังให้โจทก์ได้รับผลดังกล่าวด้วย และราคาอสังหาริมทรัพย์ ที่เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ ซึ่งขณะนี้เกินกว่าที่กำหนดใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว เพื่อประโยชน์แห่ง ความยุติธรรมโปรดรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยแล้ว (อันดับ 87)
โจทก์ ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ที่พิพาทนี้ คือที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 38 ตั้งอยู่หมู่ที่ 7(13) ตำบลดงลาน (เดินรอบเมือง) อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เนื้อที่ 21 ไร่ 1 งาน 199ส่วน10 ตารางวา เป็นของโจทก์ห้าม จำเลยและบริวารเข้าไป เกี่ยวข้องและรบกวนในที่พิพาทนี้อีกต่อไป และให้จำเลยชำระ ค่าเสียหายที่โจทก์ไม่ได้เข้าไปทำนาในที่พิพาท ตั้งแต่ปีนานี้ โดยคิดค่าเสียหายเป็นปี ๆ ละ 10,000 บาท จนกว่าจำเลยจะ ออกจากที่พิพาทนี้
จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษา 1 ยืนว่า จำเลยมีสิทธิครอบครองยกฟ้องโจทก์คำขอของจำเลยนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 81)
ทนายโจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาโจทก์โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานจึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ทั้งการที่จะพิจารณา ว่าคดีแพ่งใดต้องห้ามฎีกาหรือไม่ต้องพิจารณาจากกฎหมายที่ใช้ บังคับอยู่ในขณะที่ยื่นฎีกา คดีนี้ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท เมื่อไม่ปรากฎว่าผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีนั้นใน ศาลอุทธรณ์ได้มีความเห็นแย้ง หรือผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณา คดีในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ได้รับรองไว้หรือรับรองใน เวลาตรวจฎีกาว่ามีเหตุผลสมควรที่จะฎีกาได้ หรือได้รับอนุญาต ให้ฎีกาเป็นหนังสือจากอธิบดีผู้พิพากษา ศาลอุทธรณ์ จึงต้อง ห้ามคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share