คำสั่งคำร้องที่ 106/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

อายุความฟ้องร้องคดีเช็ค 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 นั้นนับแต่วันเช็คถึงกำหนดคือวันที่ลงในเช็ค หาใช่วันที่เขียนเช็คดังที่จำเลยฎีกาไม่ ดังนั้น ฎีกาของจำเลย ที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็น สาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ย่อยาว

ระหว่างพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้น อนุญาต ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 30,850 บาท ให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 30,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นฎีกา ข้อเท็จจริง ไม่รับฎีกา จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลฎีกาสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาข้อแรกว่าโจทก์สมคบกับนายบุ้งฮิง แซ่เอ็ง ฉ้อฉลจำเลยที่ 1 นำเช็คพิพาทซึ่งไม่มีมูลหนี้มาฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์นั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ส่วนฎีกาข้อสอง ที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความนั้น แม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เพราะอายุความ ฟ้องร้องคดีเช็ค 1 ปี นั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 ให้นับแต่วันเช็คถึงกำหนดคือวันที่ลงในเช็ค หาใช่วันที่เขียนเช็คไม่ ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ”

Share