แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยจำเลยขอวางเงินสดจำนวน 150,000 บาท ไว้เป็นหลักประกัน
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26,75,76ข้อหามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาทกระทงหนึ่ง และข้อหาจำหน่ายกัญชาอีกกระทงหนึ่งจำคุก 2 ปีปรับ 20,000 บาท รวมสองกระทง จำคุก 4 ปี และปรับ 40,000 บาทจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุกจำเลย2 ปี ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษจำคุก และไม่ลงโทษปรับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา (อันดับ 24)
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบ (อันดับ 34,33)
จำเลยเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกามาแล้วหนึ่งครั้ง ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง(อันดับ 30 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
ได้พิจารณาคำร้องของจำเลยแล้ว ปรากฏเพียงว่าจำเลยป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง แต่แพทย์ประจำโรงพยาบาลกลาง กรมราชทัณฑ์ก็ได้ทำการตรวจรักษาอาทิตย์ละครั้งหากอาการป่วยถึงขั้นอันตราย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็อนุญาตให้ไปรักษาตัวนอกเรือนจำได้อยู่แล้ว ไม่มีเหตุพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง