แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท และฎีกา ของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสองไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยมีทั้งปัญหาข้อเท็จจริง และปัญหาข้อกฎหมายคละเคล้า กันไปซึ่งไม่ต้องห้ามฎีกาแต่อย่างใดโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าโจทก์ทั้งสามได้รับ สำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินพิพาท หมายเลข 2 เอกสารหมาย จ.ล.1 และบ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 19 ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องอีก และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 200 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะออกจากที่ดิน และบ้านพิพาท
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 67)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 73)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ หนึ่งหมื่นบาท และฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคสอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง