คำวินิจฉัยที่ 23/2554

แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

ไม่มีย่อสั้น

ย่อยาว

(สำเนา)

คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
ที่ ๒๓/๒๕๕๔

วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๔

เรื่อง เขตอำนาจศาลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔)

ศาลจังหวัดสระบุรี
ระหว่าง
ศาลปกครองกลาง

การส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ
ศาลจังหวัดสระบุรีโดยสำนักงานศาลยุติธรรมส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลวินิจฉัยชี้ขาดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง (๓) ซึ่งเป็นกรณีคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องคดีโต้แย้งอำนาจศาลที่รับฟ้องคดี และศาลที่ส่งความเห็นและศาลที่รับความเห็นมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องอำนาจศาลในคดีนั้น

ข้อเท็จจริงในคดี
เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๑ บริษัทสระบุรี คอมพ์ โฟกัส จำกัด โจทก์ ยื่นฟ้องจังหวัดสระบุรี จำเลย เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๓๑๘๖/๒๕๕๑ ความว่า เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๔๙ จำเลยมอบอำนาจให้นายดุษฎี ศิลปไพบูลย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดสระบุรี ทำสัญญาซื้อครุภัณฑ์ไอทีจำนวน ๕ รายการ จากโจทก์ ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ๓๙๙,๓๐๐ บาท กำหนดส่งมอบสินค้าและชำระราคาภายในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๙ และเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ได้วางเงินประกันค่าเสียหายจำนวน ๑๙,๙๖๕ บาท ต่อมาวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๙ โจทก์ได้ส่งมอบสินค้าตามเวลาที่กำหนด แต่จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระเงินในวันส่งมอบสินค้า ตามที่กำหนดไว้ในสัญญา โจทก์ทวงถามให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีในฐานะกระทำการแทนจำเลยและนายดุษฎีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดสระบุรี ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลย ชำระหนี้เป็นเงินค่าสินค้าหลายครั้ง แต่บุคคลทั้งสองเพิกเฉย การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าสินค้าจำนวน ๓๙๙,๓๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๙ จนถึงวันฟ้อง คิดเป็นเงินค่าเสียหายรวมเป็นเงินจำนวน ๔๖๙,๑๗๗.๕๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๓๙๙,๓๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วเสร็จ อนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๑ โจทก์ได้เคยยื่นฟ้องจำเลยและนายดุษฎีต่อศาลปกครองกลางแล้ว แต่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา โดยให้เหตุผลว่าคดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางแพ่งที่มีหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นคู่สัญญาเท่านั้น คดีจึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง (คดีของศาลปกครองกลาง หมายเลขแดงที่ ๗๐๕/๒๕๕๑)
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาโดยจำเลยมิได้ผิดนัด เนื่องจากโจทก์ไม่มีหลักฐานในการตรวจรับสิ่งของมาแสดง อีกทั้งโจทก์เองไม่ปฏิบัติตามสัญญาในการส่งมอบ โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา คดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยยื่นคำร้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลว่า คดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม เนื่องจากสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ไอทีระหว่างโจทก์และจำเลยจัดทำขึ้นภายใต้โครงการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดประกอบด้วย จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดสิงห์บุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เพื่อเป็นแหล่งบริการข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และเพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ของจังหวัดให้ประสบความสำเร็จตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ อันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะในหน้าที่ของศูนย์การท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการจังหวัดสระบุรี ซึ่งโครงการดังกล่าวประกอบด้วย การจัดซื้อครุภัณฑ์ไอที ๕ รายการ การจ้างเหมาจัดทำข้อมูลเข้าสู่ระบบและจ้างเหมาดูแลระบบข้อมูล ซึ่งการจัดทำข้อมูลเข้าสู่ระบบดังกล่าวจะต้องบันทึกข้อมูลลงในครุภัณฑ์ไอทีดังกล่าว ครุภัณฑ์ไอทีและการจัดทำข้อมูลเข้าสู่ระบบซึ่งเป็นวัตถุแห่งสัญญาจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดสระบุรีซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองในกำกับดูแลของจำเลย ใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะในหน้าที่ให้บรรลุผล สัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ไอทีและสัญญาจ้างเหมาจัดทำข้อมูลเข้าสู่ระบบจึงเป็นสัญญาทางปกครอง เมื่อโจทก์ฟ้องบังคับตามสัญญาดังกล่าว จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง คดีจึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม แต่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
ศาลจังหวัดสระบุรีพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้คดีนี้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งคือจำเลยเป็นหน่วยงานทางปกครอง และการจัดซื้อครุภัณฑ์ไอทีดังกล่าวเป็นไปตามโครงการประกอบด้วยการจัดซื้อครุภัณฑ์ไอทีจำนวน ๕ รายการ การจ้างเหมาจัดทำข้อมูล และฝึกสอนผู้ดูแลระบบและการจ้างเหมาดูแลระบบ แต่เมื่อพิจารณาตามสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์และจำเลยแล้ว โจทก์มีหน้าที่ต้องส่งมอบครุภัณฑ์ไอทีจำนวน ๕ รายการตามที่กำหนด ณ ศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดสระบุรี พร้อมทั้งหีบห่อเครื่องรัดพันผูกโดยเรียบร้อยเท่านั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์มีส่วนร่วมในการดำเนินการจัดทำข้อมูล ฝึกสอนผู้ดูแลระบบหรือดูแลระบบแต่อย่างใด การจัดซื้อครุภัณฑ์ไอทีจึงเป็นเพียงสัญญาจัดหาพัสดุธรรมดาเพื่อสนับสนุนการจัดทำบริการสาธารณะของจำเลยเท่านั้น สัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ไอทีดังกล่าวจึงมิใช่สัญญาทางปกครอง แต่เป็นสัญญาทางแพ่งที่มีหน่วยงานทางปกครองของรัฐเป็นคู่สัญญาเท่านั้น เมื่อโจทก์อ้างว่าจำเลยผิดข้อตกลงไม่ชำระราคาค่าสินค้าแก่โจทก์และฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาซื้อขาย ข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยในคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางแพ่ง อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า สัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ไอทีระหว่างโจทก์และจำเลยจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในโครงการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดของจังหวัดสระบุรี งบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการส่งเสริมด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์เชิงรุกของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน กลุ่ม ๒ จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดสิงห์บุรี โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดสระบุรีและกลุ่มจังหวัด และเป็นแหล่งบริการข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรีและกลุ่มจังหวัด ดังนั้น การจัดซื้อครุภัณฑ์ไอที ๕ รายการในคดีพิพาทนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการโครงการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดของจังหวัดสระบุรี ทั้งนี้เมื่อได้จัดซื้อครุภัณฑ์ไอทีแล้วจะต้องมีการบันทึกข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่ระบบครุภัณฑ์ไอทีดังกล่าว โดยจำเลยจะนำครุภัณฑ์ไอทีที่ได้บันทึกข้อมูลด้านการท่องเที่ยวตามโครงการไปตั้งวางให้บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดแก่ประชาชนทั่วไปในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ครุภัณฑ์ไอทีในสัญญาพิพาท จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการดำเนินบริการสาธารณะตามอำนาจหน้าที่ของศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดสระบุรีให้บรรลุผล สัญญาจัดซื้อครุภัณฑ์ไอที ๕ รายการ ระหว่างโจทก์กับจำเลยในคดีนี้จึงเป็นสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มิใช่สัญญาจัดหาพัสดุธรรมดาที่สนับสนุนการจัดการจัดทำบริการสาธารณะของจำเลยเท่านั้น ข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยในคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน

คำวินิจฉัย
ปัญหาที่ต้องพิจารณา คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง
คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องคดีนี้ จำเลยมอบอำนาจให้นายดุษฎี ศิลปไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของจำเลย ทำสัญญาซื้อครุภัณฑ์ไอทีจำนวน ๕ รายการ จากโจทก์ซึ่งเป็นเอกชน แต่โจทก์อ้างว่า จำเลยปฏิบัติผิดสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ไอทีดังกล่าว ส่วนจำเลยก็ให้การว่า จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาโดยจำเลยมิได้ผิดนัด เนื่องจากโจทก์ไม่มีหลักฐานในการตรวจรับสิ่งของมาแสดง อีกทั้งโจทก์เองไม่ปฏิบัติตามสัญญาในการส่งมอบ โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา กรณีจึงเป็นข้อพิพาทเกี่ยวเนื่องกับสัญญาซื้อขายดังกล่าว คดีนี้จึงต้องพิจารณาว่า สัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ไอทีระหว่างโจทก์และจำเลยดังกล่าวเป็นสัญญาทางแพ่งหรือสัญญาทางปกครอง เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) บัญญัติว่า ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง และมาตรา ๓ บัญญัติว่า สัญญาทางปกครอง หมายความรวมถึง สัญญาที่คู่สัญญาอย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเป็นบุคคลซึ่งกระทำการแทนรัฐ และมีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะ หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ คดีนี้จำเลยมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับนโยบายและรับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มาปฏิบัติการให้เหมาะสมกับท้องที่และประชาชน และเป็นหัวหน้าบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการฝ่ายบริหาร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในราชการส่วนภูมิภาคในเขตจังหวัด และรับผิดชอบในราชการจังหวัดและอำเภอ มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา ๕๔ และมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ เมื่อจำเลยมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของจำเลยทำสัญญาซื้อครุภัณฑ์ไอทีจำนวน ๕ รายการ ที่มีสาระสำคัญให้โจทก์ซึ่งเป็นเอกชนจัดหาและส่งมอบครุภัณฑ์ไอทีเพื่อใช้ในโครงการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดของจังหวัดสระบุรี ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดสระบุรีและกลุ่มจังหวัด และเป็นแหล่งบริการข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรีและกลุ่มจังหวัด อันเป็นภารกิจเกี่ยวกับการจัดทำบริการสาธารณะอย่างหนึ่งในการพัฒนาการท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการของรัฐ ครุภัณฑ์ไอทีดังกล่าวจึงเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นต่อการจัดทำบริการสาธารณะของจำเลยให้บรรลุผล สัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ไอทีระหว่างโจทก์และจำเลยจึงเป็นสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ข้อพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลยจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
จึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คดีระหว่าง บริษัทสระบุรี คอมพ์ โฟกัส จำกัด โจทก์ จังหวัดสระบุรี จำเลย อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง

(ลงชื่อ) สบโชค สุขารมณ์ (ลงชื่อ) สุวัฒน์ วรรธนะหทัย
(นายสบโชค สุขารมณ์) (นายสุวัฒน์ วรรธนะหทัย)
ประธานศาลฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม

(ลงชื่อ) หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล (ลงชื่อ) จรัญ หัตถกรรม
(นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล) (นายจรัญ หัตถกรรม)
ประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง

(ลงชื่อ) พลโท ศิลปชัย สรภักดี (ลงชื่อ) พลโท อาชวัน อินทรเกสร
(ศิลปชัย สรภักดี) (อาชวัน อินทรเกสร)
หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลทหาร

(ลงชื่อ) จิระ บุญพจนสุนทร
(นายจิระ บุญพจนสุนทร)
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

Share