แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
การฟ้องคดีเพื่อให้หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐรับผิดจากการกระทำละเมิด ซึ่งจะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ต้องเป็นกรณีที่จำเลยหรือผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือผู้ฟ้องคดี อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครองหรือคำสั่งอื่นหรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร คดีนี้แม้เหตุแห่งการฟ้องคดีสืบเนื่องมาจากโจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกับเอกชนกระทำละเมิดต่อโจทก์ โดยการขุดลำห้วยในโครงการขุดบ่อกักเก็บน้ำ (ธนาคารน้ำ) รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ และทำลายไม้ยืนต้น ทั้งได้ขุดตักดินในที่ดินของโจทก์ แต่การกระทำดังกล่าวมิได้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันจะเข้าหลักเกณฑ์ของมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ทั้งกรณีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของโจทก์หรือเป็นที่สาธารณประโยชน์ อันจะเป็นผลให้จำเลยทั้งสามมีอำนาจเข้าไปทำการจัดให้มีและบำรุงรักษา ทางน้ำและทางบก ตลอดทั้งจัดให้มีน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตรในโครงการขุดบ่อกัก เก็บน้ำ (ธนาคารน้ำ) ได้ โดยไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ดังนั้นข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิด และสิทธิในที่ดินที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม