แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่ง ในเรื่องดังต่อไปนี้ (๓) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครองหรือคำสั่งอื่น หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร คดีนี้ สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โจทก์ ยื่นฟ้องอดีตนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นจำเลย อ้างว่า จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์กรณีกระทำการในลักษณะที่ทำให้บุคคลอื่นและองค์กรอื่นเข้าใจผิดว่าจำเลยยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคมโจทก์และยังเข้าควบคุมขัดขวางการบริหารงานของคณะกรรมการบริหารของสมาคมโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ส่วนจำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยยังมีสถานะเป็นนายกสมาคมโจทก์ เพราะการลาออกของจำเลยยังไม่มีผลทางกฎหมาย เห็นว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทสมาคมที่มิได้มีสถานะเป็น กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ อันจะถือเป็นหน่วยงานทางปกครองตามที่กฎหมายบัญญัติ แต่การที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เป็นสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” ตามมาตรา ๔๙ และมาตรา ๖๒ แห่งพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมาตรา ๖๘ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติ ให้สมาคมโจทก์ดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬา หรือจัดหรือร่วมในการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาโดยแสดงว่าเป็นการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน หรือจัดหรือร่วมในการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาในนามของชาติหรือประเทศไทย อันเป็นการดำเนินบริการสาธารณะ โจทก์จึงอาจเป็นหน่วยงานทางปกครองประเภทหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครอง ซึ่งถือเป็นประเภทหนึ่งของหน่วยงานทางปกครอง และจะมีผลให้กรรมการของโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒ ได้ หากโจทก์หรือกรรมการของโจทก์ได้ใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครองตามที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้น เมื่อการกระทำของจำเลยตามฟ้องที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยกระทำการในลักษณะที่ทำให้บุคคลอื่นและองค์กรอื่นเข้าใจผิดว่าจำเลยยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคมโจทก์และยังเข้าควบคุมขัดขวางการบริหารงานของคณะกรรมการบริหารของสมาคมโจทก์ มิใช่การใช้อำนาจทางปกครองหรือการดำเนินกิจการทางปกครอง อันจะถือว่าโจทก์เป็นหน่วยงานทางปกครองและจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้อพิพาทในคดีนี้จึงมิใช่ข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชนและไม่มีประเด็นเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครองของสมาคมโจทก์ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ แต่เป็นข้อพิพาทที่เกี่ยวกับการกระทำละเมิดอันเกิดจากการบริหารงานภายในของสมาคมโจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลเอกชน จึงเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกัน ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาททางแพ่ง ที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม