แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
ไม่มีย่อสั้น
ย่อยาว
(สำเนา)
คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
(คำสั่ง) ที่ ๑๕ /๒๕๔๕
วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๕
เรื่อง เขตอำนาจศาลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง ประกอบกับพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ มาตรา ๕๗ และมาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง
ศาลจังหวัดลพบุรี
ระหว่าง
ศาลปกครองกลาง
การส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ
ศาลจังหวัดลพบุรีส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลพิจารณาวินิจฉัยตามมาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องโต้แย้งเขตอำนาจของศาลที่รับฟ้อง และศาลที่ส่งความเห็นกับศาลที่รับความเห็นมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องเขตอำนาจศาลในคดีนั้น
ข้อเท็จจริงในคดี
เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๔๔ นายประสาน พงศ์ขจร ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วย หมู่ที่ ๒ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดลพบุรีเป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๖๒๘/๒๕๔๔ คัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วย หมู่ที่ ๒ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๔ เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งมิได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม กล่าวคือ การนับคะแนนเป็นไปโดยความรีบเร่งจนเกินไปและการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยว่า บัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ๓ ใบ เป็นบัตรเสียนั้นไม่ถูกต้อง การกระทำดังกล่าวของคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้ จึงขอให้ศาลจังหวัดลพบุรีมีคำสั่งให้ยกเลิกคณะกรรมการตรวจคะแนนที่ได้รับการแต่งตั้งตามประกาศ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วย ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ และมีคำสั่งให้การรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วยในส่วนของหมู่ที่ ๒ ตำบลบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๔ เป็นโมฆะ กับขอให้วินิจฉัยชี้ขาดว่าบัตรเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยว่าเป็นบัตรเสียนั้นเป็นบัตรเสียตามกฎหมายหรือไม่ ต่อมา องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วย ผู้คัดค้าน โดยนายอรัญ ทั่งทองแท้ พนักงานอัยการจังหวัดลพบุรี ทนายผู้คัดค้าน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดลพบุรีก่อนวันนัดไต่สวนคำร้องว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองและขอให้ศาลจังหวัดลพบุรีส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจ หน้าที่ระหว่างศาลพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดเสียก่อนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒
ศาลจังหวัดลพบุรีเห็นว่า คำร้องของนายประสาน พงศ์ขจร ผู้ร้อง เป็นคำร้องที่มีข้ออ้างว่าเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คดีจึงอยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ศาลปกครองกลางเห็นว่า ตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติให้ในระหว่างที่ไม่มีกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ให้นำกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ให้นำกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลมาใช้บังคับกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโดยอนุโลม ซึ่งตามมาตรา ๕๗ และ ๕๘ แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ บัญญัติให้ผู้สมัครคนใดเห็นว่าการเลือกตั้งในเขตนั้นเป็นไปโดยมิชอบ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นซึ่งเขตเลือกตั้งนั้นอยู่ในเขตอำนาจ เมื่อศาลได้รับคำร้องคัดค้านแล้วให้ดำเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยเร็ว ดังนั้น ศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีการคัดค้านการเลือกตั้งจึงควรเป็นศาลยุติธรรม เพราะศาลยุติธรรมดำเนินกระบวนพิจารณาโดยใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเป็นหลัก ส่วนศาลปกครองดำเนินกระบวนพิจารณาโดยใช้พระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และระเบียบของตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๓ ในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล วิธีพิจารณาคดีถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเป็นไปตามความมุ่งหมายของกฎหมาย หากศาลปกครองต้องตัดสินคดีปกครองโดยใช้วิธีพิจารณาความแพ่งแทนที่จะใช้วิธีพิจารณาคดีปกครองย่อมจะไม่สอดคล้องกับระบบและความมุ่งหมายของกฎหมาย จึงเห็นว่า คำร้องคัดค้านการ เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วยของนายประสาน พงศ์ขจร อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดลพบุรี (ศาลยุติธรรม) ตามแนวคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ที่ ๑/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๔๔
อนึ่ง คณะกรรมการได้เคยวินิจฉัยคดีคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลว่าอยู่ในเขตอำนาจของศาลยุติธรรมไว้แล้วรวม ๗ เรื่อง
คำวินิจฉัย
ปัญหาที่ต้องพิจารณา คณะกรรมการควรวินิจฉัยเรื่องนี้ซ้ำอีกหรือไม่
คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วย หมู่ที่ ๒ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี และผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่า คดีอยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง ขอให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดว่า ศาลใดมีเขตอำนาจเหนือคดีนี้ ซึ่งคณะกรรมการได้เคยวินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้วรวม ๗ เรื่องว่า คดีคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบล อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเขตเลือกตั้งนั้นอยู่ในเขตอำนาจ ตามนัยคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๓ ถึงที่ ๗/๒๕๔๔ ที่ ๘และ ๙/๒๕๔๕ ทั้งเรื่องนี้ไม่มีข้อเท็จจริงหรือลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากเรื่องเดิมอันจะทำให้คณะกรรมการต้องวินิจฉัยเพิ่มเติมหรือวินิจฉัยในประเด็นอื่นอีก ถือได้ว่าเป็นการร้องขอให้วินิจฉัยซ้ำในเรื่องที่คณะกรรมการได้เคยวินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้ว ตามข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ว่าด้วยการเสนอเรื่อง การพิจารณาและวินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๒๘
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วยผู้คัดค้านเสียและ
ศาลจังหวัดลพบุรีมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
นายสันติ ทักราล หม่อมหลวงเฉลิมชัย เกษมสันต์
ประธานศาลฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม
นายอักขราทร จุฬารัตน นายโภคิน พลกุล
ประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง
พลโท สมัยรบ สุทธิวาทนฤพุฒิ พลโท อาชวัน อินทรเกสร
หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลทหาร
นายพรชัย รัศมีแพทย์
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ