แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผลแห่งคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งพิพากษาว่าทรัพย์รายพิพาทเป็นของผู้ร้องและคดีถึงที่สุดแล้ว ย่อมผูกพันคู่ความ ผู้ร้องใช้คำพิพากษานั้นยันโจทก์ซึ่งเป็นคู่ความในคดีนั้นได้ เมื่อโจทก์ให้การในคดีร้องขัดทรัพย์ใหม่อีกเรื่องหนี่งว่า ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป โดยจำเลยซื้อทรัพย์รายพิพาทจากผู้ร้องภายหลังจากศาลพิพากษาคดีดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงมีภาระในการนำสืบก่อน
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ขอให้ยึดที่ดินพร้อมกับเรือนเลขที่ ๑๓/๑ ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินนั้นตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ ๒๑๘/๒๕๐๖ ของศาลชั้นต้น
นายทาน วิรุณพันธ์ ร้องขัดทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้องมีคำสั่งถอนการยึด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีถึงที่สุด
ต่อมาโจทก์ขอให้ศาลยึดทรัพย์ดังกล่าวอีก นายทาน วิรุณพันธ์ ร้องขัดทรัพย์อีกและว่าเป็นการร้องซ้ำ
โจทก์ว่าจำเลยซื้อทรัพย์รายนี้จากผู้ร้องตั้งแต่พฤศจิกายน ๒๕๐๗ จำเลยครอบครองตลอดมา
ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น ผู้ร้องแถลงว่า ทรัพย์ที่ร้องขอให้ปล่อยนั้นคือทรัพย์ที่ยึดตามบันทึกของเจ้าพนักงานบังคับคดีลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๐๘ ศาลชั้นต้นให้ผู้ร้องนำสืบก่อน แล้วให้โจทก์สืบแก้ แต่ทั้งสองฝ่ายแถลงว่าไม่สืบพยาน ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดในตามสำนวน ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านว่า โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบก่อน พิพากษายกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กรณีนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามมาตรา ๑๔๘ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แต่โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้สม จึงพิพากษาแก้ ให้ถอนการยึด
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว คำพิพากษาของศาลชั้นต้นคดีแพ่งแดงที่ ๒๑๘/๒๕๐๖ (สาขาคดีที่ ๑) ระหว่างนางภัทรา อยู่คำ โจทก์ นายบัวพันธ์ แก้วคำ จำเลย นายทาน วิรุณพันธ์ ผู้ร้องขัดทรัพย์ ซึ่งพิพากษาว่า ทรัพย์รายพิพาทเป็นของผู้ร้อง และผู้ร้องให้จำเลยอาศัยอยู่นั้น คดีถึงที่สุดแล้ว ผลแห่งคำพิพากษานั้นยอมผูกพันคู่ความนับตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษา (๒๒ เมษายน ๒๕๐๗) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๕ ผู้ร้องใช้คำพิพากษานั้นยันโจทก์ซึ่งเป็นคู่ความในคดีนั้นได้ โจทก์ให้การว่าข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป โดยจำเลยซื้อทรัพย์รายพิพาทจากผู้ร้องภายหลังจากศาลพิพากษาคดีดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงมีภาระในการนำสืบก่อนเมื่อโจทก์ไม่นำสืบ โจทก์ย่อมเป็นฝ่ายแพ้คดี
ข้อทีโจทก์ฎีกา ที่ดินพิพาทเป็นที่มือเปล่า จำเลยยึดถือไว้ กฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยยึดถือไว้เพื่อตน จึงควรให้ผู้ร้องนำสืบก่อนนั้น ศาลฎีกาได้พิจารณาแล้ว คดีนี้ ผู้ร้องใช้คำพิพากษาคดีดังกล่าวแล้วยันโจทก์ได้ว่า ทรัพย์รายพิพาทเป็นของผู้ร้อง ข้อสันนิษฐานของกฎหมายตามที่โจทก์ฎีกานั้น นำมาใช้ในคดีนี้ไม่ได้
พิพากษายืน.