คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกู้ยืมเงินจากผู้เสียหาย โดยจำเลยออกเช็คให้ แม้จำเลยจะไม่ได้ทำหนังสือสัญญากู้ แต่ได้ออกเช็คให้แทนโดยมีมูลหนี้จากการกู้เงิน จึงย่อมมีความผูกพันกันในเบื้องต้นอันอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ได้
คดีที่ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการโจทก์ ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์และจำเลยแล้วพิพากษายกฟ้อง พนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์ ฎีกา แต่โจทก์ร่วมได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ เมื่อพยานโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบเป็นพยานของพนักงานอัยการโจทก์แต่พนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกา และโจทก์ร่วมแถลงไม่สืบพยาน ดังนี้ ศาลฎีกาย่อมสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานเฉพาะพยานจำเลยเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คให้แก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ ผู้เสียหายนำเช็คไปเบิกเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะเงินในบัญชีของจำเลยไม่พอจ่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗
ผู้เสียหายขอเป็นโจทก์ร่วม
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ได้ ๓ ปากแล้ว งดสืบพยานโจทก์จำเลย เห็นว่าเป็นเรื่องผู้เสียหายให้จำเลยกู้เงิน แล้วให้จำเลยออกเช็คแทนสัญญากู้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะไม่ได้ทำหนังสือสัญญากู้ให้โจทก์ร่วม แต่ก็ได้ออกเช็คให้โจทก์ร่วมไว้โดยมีมูลหนี้จากการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ร่วม ย่อมมีความผูกพันกันในเบื้องต้นอันอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้ ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลยไม่ชอบ
แต่พยานโจทก์ที่พนักงานอัยการโจทก์จะขอสืบอีก ๑ ปากเป็นพยานของพนักงานอัยการโจทก์ ไม่ใช่พยานของโจทก์ร่วม เมื่อพนักงานโจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกา และโจทก์ร่วมแถลงไม่ติดใจสืบพยาน โจทก์ร่วมจึงไม่มีสิทธิจะสืบพยานต่อไป
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ

Share