แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระหนี้จำนองแล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมชำระหนี้จำนองศาลพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้วดังนี้ถือว่าเป็นเพียงฟ้องในมูลหนี้สามัญและมี ผลทำให้หนี้เดิมระงับ เกิดหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ย่อม บังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลย รวมทั้งทรัพย์ที่จำนองได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1683/2498, 127/2506 และ 989/2506)
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระหนี้จำนองแล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้าศาลโดยจำเลย ยอมชำระหนี้จำนองให้โจทก์ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้วต่อมาจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์จึงนำยึดที่ดินโฉนด เลขที่ ๑๕๕๘ ตำบลคลองราชเทวะ อำเภอบางพลี (บางพลีใหญ่) จังหวัดสมุทรปราการ เฉพาะส่วนของจำเลยเนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๒ งาน ๘๔ วา เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการยึดทรัพย์แล้วปรากฏว่าที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยมีเนื้อที่ ๑๘ ไร่ ๘๔ วา
จำเลยร้องว่าโจทก์ฟ้องบังคับจำนองจากจำเลยในเนื้อที่ดินเพียง ๑๕ ไร่ ๑ งาน ๖๘ วา (ที่ถูกเป็น ๑๕ ไร่ ๒ งาน ๘๔ วา) และไม่รวมสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ในที่ดินที่โจทก์รับจำนองที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยมีเนื้อที่ ๑๘ ไร่ ๘๔ วา จำเลยคงเหลือที่ดินส่วนของจำเลยเนื้อที่ ๒ ไร่ ๓ งาน ๑๖ วา กับอาคารบ้านเลขที่ ๙ หมู่ที่ ๒ ตำบลราชเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องบังคับจำนองเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๕๘ เฉพาะส่วนของจำเลยเนื้อที่ ๑ ๘ไร่ ๘๔ วา เป็นการบังคับคดีเกินคำของของโจทก์ขอให้กันที่ดินส่วนที่เกินกับอาคารของจำเลยออกจากการบังคับจำนองของโจทก์ให้แก่จำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยจำนองที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยในโฉนดที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยทั้งหมดต้องผูกพันตาม สัญญาตามโฉนดยังไม่ได้แบ่งแยกไม่อาจทราบได้ว่าส่วนของจำเลยอยู่ที่ใดการที่จะกันส่วนไม่อาจทำได้ให้ยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระหนี้จำนองมิใช่ฟ้องบังคับจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๒๘ มาตรา ๗๒๙ กรณีไม่อยู่ในบังคับแห่งมาตรา ๗๓๓ และการที่โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระหนี้จำนองให้โจทก์ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้วนั้นถือว่าเป็นเพียงฟ้องในมูลหนี้สามัญและมีผลทำให้หนี้เดิมระงับเกิดหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ย่อมบังคับคดีจากทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลยรวมทั้งทรัพย์จำนองได้ ดังนั้นโจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๕๘ ตำบลคลองราชาเทวะ อำเภอบางพลี (บางพลีใหญ่) จังหวัดสมุทรปราการ เฉพาะส่วนของจำเลยเนื้อที่ ๑๘ ไร่ ๘๔ ตารางวา เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน