คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยต้องคำพิพากษาของศาล คดีถึงที่สุดแล้ว 2 คดี คดีแรกฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตต้องโทษปรับ คดีหลังฐานรับของโจรต้องโทษจำคุกนับโทษติดต่อจากคดีแรก แม้จำเลยกระทำความผิดในคดีนี้หลบหนีที่คุมขังไปในระหว่างถูกกักขังแทนค่าปรับในคดีแรก ยังไม่เริ่มรับโทษจำคุกในคดีหลังก็ดี ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดอีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ เข้าเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เพิ่มโทษจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๑๑ เวลากลางวัน ขณะจำเลยถูกกักขังแทนค่าปรับและถูกคุมขังอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองน่าน ตามอำนาจศาลจังหวัดน่านในข้อหาฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไม่รับอนุญาตตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๗๖/๒๕๑๑ จำเลยได้บังอาจหลบหนีไปจากที่คุมขังดังกล่าวแล้ว เหตุเกิดที่ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ก่อนคดีนี้เมื่อจำเลยมีอายุกว่า ๑๗ ปี เคยถูกศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำคุก ๒ เดือนฐานรับของโจร ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๘๘/๒๕๑๑ ของศาลจังหวัดน่าน ซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือประมาท จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีกในระหว่างต้องรับโทษอยู่ จำเลยเป็นคน ๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาของศาลจังหวัดน่าน หมายเลขคดีแดงที่ ๒๗๖/๒๕๑๑ และแดงที่ ๒๘๘/๒๕๑๑ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๙๐ เพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา ๙๒ และนับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาแดงที่ ๒๘๘/๒๕๑๑
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นคน ๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาแดงที่ ๒๗๖/๒๕๑๑ และคดีแดงที่ ๒๘๘/๒๕๑๑ คดีแรกศาลปรับ จำเลยไม่ชำระค่าปรับ คดีหลังศาลพิพากษาจำคุกนับโทษติดต่อจากคดีแรก จำเลยกระทำผิดคดีนี้ในระหว่างถูกกักขังแทนค่าปรับในคดีแรก
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยกระทำผิดคดีนี้ในระหว่างที่ถูกกักขังแทนค่าปรับคดีแรก ยังไม่ได้รับโทษจำคุกในคดีหลัง เพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๙๐ จำคุก ๑ ปี ลดโทษตามมาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่งคงเหลือจำคุก ๖ เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาแดงที่ ๒๘๘/๒๕๑๑ ของศาลจังหวัดน่าน ข้อขอให้เพิ่มโทษให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษอยู่ ๒ คดีด้วยกัน จำเลยกระทำผิดคดีนี้ขณะกำลังถูกกักขังแทนค่าปรับในคดีแรก แม้ยังไม่ถึงกำหนดต้องรับโทษจำคุกในคดีหลัง ก็เห็นได้ชัดว่าถึงอย่างไรจำเลยก็ต้องรับโทษจำคุก เพราะศาลให้นับโทษต่อกันอยู่แล้ว คดีที่ให้ลงโทษจำคุกก็ถึงที่สุด จำเลยหลบหนีไม่เป็นการกระทำผิดซ้ำ เพิ่มโทษได้ พิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ อีก ๑ ใน ๓ เป็นโทษจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน ลดโทษตามมาตรา ๗๘ ให้กึ่งหนึ่ง แล้วเป็นจำคุก ๘ เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาแดงที่ ๒๘๘/๒๕๑๑ ของศาลจังหวัดน่าน
จำเลยฎีกาต่อมาว่า เพิ่มโทษจำเลยไม่ได้เพราะจำเลยทำผิดในคดีนี้ขณะที่จำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาในคดีหลัง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้หลบหนีไปภายหลังที่จำเลยต้องคำพิพากษาว่า ให้จำคุกในคดีที่ต้องหารับของโจร ซึ่งถึงที่สุดแล้ว แม้ขณะที่จำเลยหลบหนีไป จำเลยกำลังรับโทษกักขังแทนค่าปรับอยู่ ยังไม่เริ่มรับโทษจำคุกในความผิดฐานรับของโจรก็ตาม แต่จำเลยก็ไม่ได้กระทำผิดฐานหลบหนีที่คุมขังขึ้นในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาในคีดที่มีโทษจำคุกซึ่งถึงที่สุดแล้วอยู่เพราะศาลให้นับโทษติดต่อกัน จึงเข้าเกณฑ์เพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ ได้
พิพากษายืน

Share