คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5448/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์อุทธรณ์ขอให้พิสูจน์ตามคำท้าใหม่หรือสืบพยานต่อไปมิได้เรียกร้องอะไรจากจำเลย ต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์200 บาท ตามตาราง 1(2)(ก.) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิใช่เสียตามทุนทรัพย์ที่พิพาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลย ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายทิมราชวงศ์ ลูกหนี้ ชำระหนี้เงินกู้จำนวน 928,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยจำเลยให้การว่าสัญญากู้ปลอม และฟ้องแย้งเรียกให้โจทก์ชำระหนี้ค่าซื้อข้าวสาร โค กระบือ และเงินยืม รวม 251,690 บาทระหว่างพิจารณาโจทก์จำเลยท้ากันให้พิสูจน์ลายมือชื่อของนายทิมผู้กู้ในสัญญากู้ตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของนายทิม พิพากษาให้โจทก์ชำระเงิน 251,690 บาทพร้อมดอกเบี้ย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้คู่ความได้แถลงตกลงท้ากันในประเด็นเดียวว่า ให้ส่งลายมือชื่อในช่องผู้กู้ในสัญญากู้ทั้งสองฉบับที่โจทก์ฟ้องไปให้ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐาน กรมตำรวจ ทำการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อ หากผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ว่า นายทิมราชวงศ์ ไม่ได้ลงลายมือชื่อไว้ในสัญญากู้ โจทก์ยอมแพ้คดี หากได้ลงลายมือชื่อไว้จริงจำเลยยอมถอนฟ้องแย้ง และยอมแพ้คดี ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 25 มิถุนายน 2527 ของศาลชั้นต้น และศาลชั้นต้นได้ส่งสัญญากู้ทั้งสองฉบับพร้อมกับเอกสารที่มีลายมือชื่อของนายทิม ราชวงศ์ ที่คู่ความนำส่งศาลไปยังกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจพิสูจน์แล้ว ปรากฏตามรายงานการตรวจพิสูจน์ที่ พ.188/2527 ลงวันที่ 19ธันวาคม 2527 โจทก์ฎีกาและแก้ไขฎีกาว่า คู่ความประสงค์ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของนายทิม ราชวงศ์ ในสัญญากู้ทั้งสองฉบับเปรียบเทียบกับลายมือชื่อตัวอย่างซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ดินส่งมาว่า เป็นลายมือชื่อของคนคนเดียวกันหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำสัญญากู้ทั้งสองฉบับมาเปรียบเทียบกันแล้วลงความเห็น ไม่ตรงตามคำท้าของคู่ความขอให้ส่งสัญญากู้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจพิสูจน์ใหม่ตามคำท้าหรือสืบพยานต่อไปนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นได้ส่งสัญญากู้สองฉบับตามฟ้องโจทก์พร้อมด้วยตัวอย่างลายมือชื่อของนายทิม ราชวงศ์ ที่คู่ความอ้างและนำส่งศาลคือหนังสือมอบอำนาจ ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2525เรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์2522 หนังสือสัญญาแบ่งขายที่ดิน ลงวันที่ 20 มีนาคม 2522 และหนังสือสัญญาขายที่ดิน ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2520 ไปโดยให้ผู้เชี่ยวชาญเปรียบเทียบกับตัวอย่างลายมือชื่อของนายทิม ราชวงศ์ ที่ลงไว้ในเอกสารดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อตรงช่องผู้กู้ในหนังสือสัญญากู้เอกสารหมาย จ.2 และ จ.6 เปรียบเทียบกับลายมือชื่อของนายทิม ราชวงศ์ ตามที่ปรากฏในเอกสารตัวอย่างแล้ว มีความเห็นว่าลายมือชื่อตรงช่องผู้กู้ในหนังสือกู้ทั้งสองฉบับมีลักษณะการเขียนลายมือชื่อโดยวิธีลากทาบแบบ ผลการตรวจพิสูจน์เป็นการยืนยันว่าลายมือชื่อตรงช่องผู้กู้ในสัญญากู้ ไม่ใช่ลายมือชื่อของนายทิม ราชวงศ์ ที่แท้จริงตรงตามคำท้าแล้ว โจทก์จึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์จำเลยได้ตกลงกันว่า จำเลยยอมถอนฟ้องแย้งไปก่อนส่งสัญญากู้ไปตรวจพิสูจน์ตามคำท้า ถือได้ว่าจำเลยได้สละสิทธิเรียกร้องตามฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชำระเงินแก่จำเลยตามฟ้องแย้งจึงไม่ชอบนั้น เห็นว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2527 ของศาลชั้นต้นที่แก้ไขแล้วโจทก์จำเลยตกลงท้ากัน โดยให้ศาลชั้นต้นส่งหนังสือสัญญากู้ทั้งสองฉบับตามฟ้องโจทก์ กับตัวอย่างลายมือชื่อของนายทิม ราชวงศ์ไปให้ผู้เชี่ยวชาญทำการพิสูจน์ หากผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ว่านายทิม ราชวงศ์ไม่ได้ลงลายมือชื่อไว้ในสัญญากู้ โจทก์ยอมแพ้คดีหากได้ลงลายมือชื่อไว้จริง จำเลยยอมถอนฟ้องแย้งและยอมแพ้คดีไม่มีข้อความว่าจำเลยจะต้องถอนฟ้องแย้งก่อนส่งสัญญากู้ไปตรวจพิสูจน์ และตามคำร้องของโจทก์ฉบับลงวันที่ 28 มิถุนายน 2527ที่โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นแก้ไขรายงานกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้โต้แย้งเกี่ยวกับการถอนฟ้องแย้งของจำเลยแต่อย่างใด
โจทก์ฎีกาอีกว่า โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ มิได้อุทธรณ์ขอให้ชนะคดีตามฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์เรียกค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่ถูกต้องนั้นเห็นว่าในส่วนของฟ้องโจทก์ โจทก์เพียงแต่ขอให้พิสูจน์ตามคำท้าใหม่หรือสืบพยานต่อไป หาได้เรียกร้องอะไรจากจำเลยไม่ จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ 200 บาท ตามตาราง 1(2)(ก.) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิใช่เสียตามทุนทรัพย์ที่พิพาทจึงต้องคืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ในส่วนที่เสียเกินให้โจทก์อนึ่งปรากฏว่าในชั้นฎีกาโจทก์ยังมิได้เสียค่าขึ้นศาลในส่วนของฟ้องโจทก์ ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาล 200 บาทเช่นเดียวกัน จึงต้องนำเงินส่วนที่ต้องคืนนั้นมาชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเสียก่อนด้วย”
พิพากษาแก้ ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ จำนวน 23,100 บาทให้โจทก์โดยให้นำมาชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา จำนวน 200 บาทเสียก่อน

Share