แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยหาว่าเลียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์ ซึ่งปรากฏที่กล่องบรรจุยา และใช้กับสินค้ายาปฏิชีวนะ บริษัทโจทก์เข้าร่วมเป็นโจทก์กับผู้ว่าคดี แล้วบริษัทโจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีขึ้นมาอีกในข้อหาว่าเลียนเครื่องหมายการค้าอันเดียวกันนี้ที่กล่องบรรจุยาและที่สินค้ายา ดังนี้ บริษัทโจทก์ต้องห้ามไม่ให้ยื่นฟ้องเรื่องเดียวกันนั้นอีก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรค 2 (1) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ไม่ชอบ ให้ยกฟ้องที่บริษัทโจทก์ยื่น แต่บริษัทโจทก์ดำเนินคดีกับจำเลยในฐานะโจทก์ร่วมได้
ไม่ว่าจำเลยจะควบคุมผู้ขายปลีกหรือผู้ซื้อได้หรือไม่ จะลงทุนมากหรือไม่ เจ้าพนักงานจะยอมรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้จำเลยหรือไม่ จะมีประชาชนซื้อโดยหลงผิดหรือยัง เมื่อจำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าโดยเจตนาเพื่อจะให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นของบริษัทโจทก์ ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274 (ปัญหาแรกประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2510)
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้ศาลพิจารณาและพิพากษารวมกัน
ผู้ว่าคดีฟ้องในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ ๑ เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้ร่วมกระทำผิด โดยจำเลยที่ ๒ กระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ ๑ และกระทำในฐานะส่วนตัว บังอาจเลียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทอเมริกันไซยันนามิดกัมปะนีนิติบุคคล และจำเลยได้จำหน่ายและเสนอจำหน่ายยาปฏิชีวนะที่มีเครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้เสียหายมีเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้าที่จำเลยเลียนขึ้นนั้นเป็นเครื่องหมายการค้าของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๔, ๒๗๕ ๒๗๒(๑) ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับผู้ว่าคดี
สำนวนหลัง ผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยมีข้อความทำนองเดียวกับสำนวนแรก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๔, ๒๗๕, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า เครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่ได้เลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ในสำนวนหลัง และเป็นโจทก์ร่วมในสำนวนแรกอุทธรณ์ขึ้นมาทั้งสองสำนวนโดยได้รับอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า การกระทำของจำเลยน่าเชื่อว่าเลียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์ซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้ว เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้านั้นเป็นของบริษัทโจทก์ จำเลยจึงมีความผิด แม้เครื่องหมายการค้าของจำเลยพนักงานเจ้าหน้าที่รับจะจดทะเบียนให้ เมื่อเป็นการเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ก็ไม่เป็นเหตุที่จำเลยจะไม่มีความผิด พิพากษากลับให้ปรับจำเลยคนละ ๑,๐๐๐ บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๔
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยในข้อหาว่าเลียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์ ซึ่งปรากฏที่กล่องบรรจุยาและใช้กับสินค้ายาปฏิชีวนะ บริษัทโจทก์เข้าร่วมเป็นโจทก์กับผู้ว่าคดี แล้วยื่นฟ้องเป็นคดีขึ้นมาอีกในข้อหาว่าจำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าอันเดียวกันนี้ที่กล่องบรรจุยา และที่สินค้ายา ซึ่งผู้ว่าคดีฟ้องและบริษัทโจทก์เข้าร่วมเป็นโจทก์อยู่ด้วยแล้ว ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่มีมติว่าบริษัทโจทก์ต้องห้ามมิให้ยื่นฟ้องเรื่องเดียวกันนั้นขึ้นอีก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๓ วรรค ๒ (๑) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ ที่ศาลชั้นต้นรับฟ้องของบริษัทโจทก์ที่ยื่นเข้ามาใหม่ จึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา แต่อย่างไรก็ดี บริษัทโจทก์ก็ยังเป็นโจทก์ร่วมในคดีที่ผู้ว่าคดีเป็นโจทก์อยู่แล้วนั้น และดำเนินคดีกับจำเลยในฐานะเป็นโจทก์ร่วมได้ ศาลฎีกาจึงพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป
ศาลฎีกาเห็นว่า เครื่องหมายการค้าที่บริษัทโจทก์จดทะเบียนไว้บนแคปซูลยาคือ อักษรโรมันตัวเขียน Lederle ส่วนที่จำเลยยื่นคำขอจด คืออักษรโรมันตัวพิมพ์ใหญ่ LEADTRA จำเลยกลับนำอักษรโรมันตัวเขียนอย่างของบริษัทโจทก์มาใช้ทำขนาด ทำลักษณะและลีลาในการเขียนอย่างของบริษัทโจทก์ ขึ้นต้นด้วยตัวเขียนใหญ่ “L” โตพอเห็นได้และโตขนาดอย่างของบริษัทโจทก์ ส่วนตัวต่อไปอีก ๖ ตัว เป็นตัวเขียนเล็กจิ๋วละเอียดยิบอย่างของบริษัทโจทก์ ซึ่งแม้ผู้รู้และอ่านอักษรโรมันได้ ก็ยากที่จะรู้ และอ่านตัวอักษรซึ่งเรียงกันอยู่นั้นได้ ทำให้หลงไม่สนใจอ่านอักษรตัวต่อ ๆ ไปว่าเป็นอักษรอะไรบ้าง ทำแคปซูลเป็นสีเหลือง ทำตัวอักษรเป็นสีเขียว วางอักษรบนแคปซูลในตำแหน่งและทิศทางอย่างของบริษัทโจทก์ ทำหลังจากบริษัทโจทก์ก็ได้ผลิตส่งมาจำหน่ายและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Lederle” ในประเทศไทยแล้วถึง ๑๒ ปี เป็นการที่จำเลยทำเอาอย่าง ทำตามพยามทำให้เหมือนของบริษัทโจทก์ เป็นการที่จำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์ โดยเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์นั่นเอง แม้แคปซูล สี ลักษณะ และ ขนาด บริษัทโจทก์มิได้จดทะเบียนไว้
และสูตรยามีกำหนดมาตรฐานตามหลักสูตรสากลดังจำเลยอ้าง แต่เมื่อจำเลยทำเอาอย่างของบริษัทโจทก์ ก็ย่อมเป็นเครื่องประกอบให้เห็นความประสงค์ของจำเลยที่จะให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยนั้นเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์ยิ่งขึ้น
ดังนั้น ไม่ว่าจำเลยจะควบคุมผู้ขายปลีกหรือผู้ซื้อได้หรือไม่ จะลงทุนมากหรือไม่ เจ้าพนักงานจะยอมรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจำเลยหรือไม่ จะมีประชาชนซื้อโดยผิดหลงหรือยัง เมื่อจำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าที่แคปซูลยาของบริษัทโจทก์ซึ่งได้จดทะเบียนแล้ว โดยเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์ก็เป็นความผิด
พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องที่บริษัทโจทก์ยื่นมาโดยเฉพาะนั้นเสีย แต่คงให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องของผู้ว่าคดีซึ่งบริษั่ทโจทก์ร่วมนั้นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทุกประการ.