คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้เป็นนายวงจัดให้มีการเล่นแชร์ โจทก์เป็นกรรมการบริษัท ก. โจทก์ในนามบริษัทดังกล่าวกับจำเลยที่ 1 ร่วมเข้าเล่นแชร์ดังกล่าวรวม 2 วง ต่อมาโจทก์ประมูลแชร์ทั้งสองวงได้ และได้รับเช็คพิพาทรวม 2 ฉบับ เพื่อชำระหนี้ค่าแชร์ โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลัง ต่อมา เช็คพิพาททั้งสองฉบับถึงกำหนดชำระเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายแม้เช็คพิพาททั้งสองฉบับจะระบุจ่าย “บริษัท ก.” แต่ก็มิได้ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก เช็คพิพาททั้งสองฉบับจึงเป็นเช็คผู้ถือ เมื่อโจทก์เป็นผู้ครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 904 และมีอำนาจฟ้อง แต่แชร์ทั้งสองวงดังกล่าว มีนิติบุคคลเป็นนายวงแชร์ ซึ่งต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 5 นิติกรรมการเล่นแชร์ทั้งสองวง จึงตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 เช็คพิพาททั้งสองฉบับจึงไม่มีมูลหนี้ที่จะบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิ เรียกร้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๐ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ สั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งสองเพื่อเป็นฉบับประกันในการเล่นแชร์ อีกทั้งเช็คพิพาททั้งสองฉบับไม่สามารถบังคับชำระหนี้ได้ เนื่องจากเป็นเช็คที่ออกประกันการเล่นแชร์ที่มีนิติบุคคลเป็นนายวงแชร์ ซึ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๒ ได้ตั้งวงแชร์โดยจำเลยที่ ๑ ประมูลแชร์ได้และออกเช็คพิพาทไว้ ต่อมาบริษัทเกียรติบุญชัยค้าไม้ จำกัด ประมูลแชร์ได้ จำเลยที่ ๒ จึงมอบเช็คให้บริษัทดังกล่าวเพื่อไปเรียกเก็บเงินจากจำเลยที่ ๑ โจทก์มิใช่ผู้ร่วมเล่นแชร์กับจำเลยที่ ๒ จึงไม่มีสิทธินำเช็คไปเรียกเก็บเงิน โจทก์จึงมิใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที. เอ็ม. อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งจำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้เป็นนายวงจัดให้มีการเล่นแชร์ โจทก์เป็นกรรมการบริษัทเกียรติบุญชัยค้าไม้ จำกัด กับจำเลยที่ ๑ ร่วมเข้าเล่นแชร์ ดังกล่าวรวม ๒ วง ต่อมาโจทก์ประมูลแชร์ทั้งสองวงได้ และได้รับเช็คพิพาทรวม ๒ ฉบับ คือเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักสาขาพลับพลาไชย เลขที่ ๒๙๐๖๑๕๐ และ ๒๙๔๘๐๖๒ เช็คพิพาททั้งสองฉบับลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๐ จำนวนเงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท เพื่อชำระหนี้ค่าแชร์ โดยจำเลยที่ ๑ เป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ ๒ เป็นผู้สลักหลัง ต่อมาเช็คพิพาท ทั้งสองฉบับถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่าย แล้ววินิจฉัยว่า แม้เช็คพิพาททั้งสองฉบับจะระบุจ่าย “บริษัทเกียรติบุญชัยค้าไม้ จำกัด” แต่ก็หาได้ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออกไม่ ดังนี้ เช็คพิพาททั้งสองฉบับจึงเป็นเช็คผู้ถือ เมื่อโจทก์เป็นผู้ครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๐๔ และมีอำนาจฟ้อง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อแชร์ทั้งสองวงดังกล่าวมี นิติบุคคลเป็นนายวงแชร์ ซึ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๕ นิติกรรมการเล่นแชร์ ทั้งสองวงจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๐ เช็คพิพาททั้งสองฉบับจึงไม่มีมูลหนี้ ที่จะบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับ
พิพากษายืน.

Share