แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์จำเลยสามารถตกลงกันได้แล้ว โดยจำเลยยอมชำระหนี้ส่วนที่เหลือให้แก่โจทก์เรียบร้อยแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป จึงขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยแถลงไม่คัดค้าน (อันดับ 117)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูล จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมตามจำนวนเช็คเป็นกระทงความผิดฉบับแรกจำคุก 10 เดือน ฉบับที่สองจำคุก 6 เดือน ฉบับที่สามจำคุก8 เดือน ฉบับที่สี่จำคุก 4 เดือน ฉบับที่ห้าจำคุก 8 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 18 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า เช็คฉบับแรกให้จำคุก 6 เดือนฉบับที่สองจำคุก 4 เดือน ฉบับที่สามจำคุก 5 เดือน ฉบับที่สี่จำคุก3 เดือน ฉบับที่ห้าจำคุก 6 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับ (อันดับ 76)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 83)
ศาลฎีกาสั่งคำร้องเสร็จและส่งไปศาลชั้นต้นเพื่ออ่าน แต่ก่อนอ่านคำสั่งศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 117) โดยทนายโจทก์ผู้มีอำนาจถอนฟ้องเป็นผู้ลงลายมือในคำร้อง
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว โจทก์ขอถอนฟ้องก่อนคดีถึงที่สุดได้ จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ