แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า จำเลยอุทธรณ์ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า จำเลยอุทธรณ์ว่าพยานเอกสารหมาย จ.1 รับฟังไม่ได้เพราะโจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานอีกทั้งไม่ได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานเอกสารดังกล่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใด การที่ศาลแรงงานกลางรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88อุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 32)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระค่าจ้างค้างจ่ายจำนวน 58,800 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 23)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 27)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เอกสารหมาย จ.1 เป็นเอกสารที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งเรียกจากโจทก์ ซึ่งเป็นพยานที่ศาลแรงงานกลางเรียกมาสืบเองตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 45 ไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องยื่นบัญชีระบุพยานไว้ การที่ศาลแรงงานกลางเรียกมาและรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นการใช้ดุลพินิจของศาลแรงงานกลางอันเป็นข้อเท็จจริงศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
