แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีทางที่จะชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน โดยขอถือหลักทรัพย์ที่จำเลยวางไว้ในชั้นอุทธรณ์เป็นหลักประกันในชั้นฎีกาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงไม่คัดค้าน (อันดับ 263)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 2,668,608.60 บาทให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้อง (23 กรกฎาคม 2522) จนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้เงิน 2,508,889.05 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 260,259)
จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์โดยจำเลยได้นำหลักทรัพย์ของผู้มีชื่อมาวางเป็นหลักประกันและได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 238,242)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จนถึงวันทราบคำสั่งนี้ มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง