แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์ไม่ปรากฏให้เห็นโดยชัดแจ้งว่าเป็นการคัดค้านคำพิพากษาว่าไม่ถูกต้องในข้อใด จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 ถึงแม้จะแปลไปในทางว่า โจทก์อุทธรณ์มาให้เห็นว่าโจทก์ไม่ได้ทุจริตตามที่ศาลวินิจฉัย ก็เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
หมายเหตุ ทนายจำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 36)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง โดยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 30,600 บาทให้แก่โจทก์เพิกถอนคำสั่งของจำเลย รับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างเดิม และจ่ายค่าเสียหายจำนวน 200,000บาทในอัตราดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 32)
ทนายโจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 33)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังว่าโจทก์ได้รับมอบหมายจากจำเลยให้มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋วและเงินที่ขาดหายไป ที่โจทก์อุทธรณ์ว่านายสุชาติ ผู้ควบคุมเป็นผู้รับผิดชอบการจำหน่ายตั๋วและเงินที่ขาดหายไปมิใช่โจทก์นั้น จึงเป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานของศาลแรงงานกลาง อันเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ยกคำร้อง