คำสั่งคำร้องที่ 1496/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากโจทก์จำเลยตกลงกันได้และโจทก์ไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป จึงขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยแถลงท้ายคำร้องว่า จำเลยได้รับคำร้องขอถอนฟ้องแล้วไม่ค้าน (อันดับ 114)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูล มีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ระหว่างพิจารณา จำเลยขอถอนคำให้การเดิมที่ปฏิเสธและขอให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้อง ศาลชั้นต้นอนุญาตและนัดฟังคำพิพากษา
ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา จำเลยยื่นคำร้องขอแก้คำให้การที่รับสารภาพ เป็นให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดีต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก5 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก2 เดือน 15 วัน
จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาและคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 105)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 107)
ศาลฎีกาทำคำสั่งคำร้องเสร็จ และส่งไปยังศาลชั้นต้นเพื่ออ่านแล้ว (อันดับ 111 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกาในวันที่ 29 ตุลาคม 2530(อันดับ 112)
ก่อนถึงวันนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกา ทนายโจทก์ซึ่งมีอำนาจถอนฟ้องยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งว่า รอไว้สอบจำเลยก่อน(อันดับ 114)
วันนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกา ศาลชั้นต้นงดฟังคำสั่งของศาลฎีกาและให้นัดสอบถามจำเลยว่าจะคัดค้านที่โจทก์ขอถอนฟ้องหรือไม่(อันดับ 116)
ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยแล้ว จำเลยแถลงว่าไม่คัดค้านที่โจทก์ขอถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ส่งสำนวนพร้อมคำสั่งของศาลฎีกามายังศาลฎีกาเพื่อสั่ง (อันดับ 117)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว และคดียังไม่ถึงที่สุด ทั้งจำเลยไม่คัดค้านคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ ให้จำหน่ายคดี

Share