คำสั่งคำร้องที่ 664/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ไม่รับเป็นฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงคนละอย่างกัน จำเลยย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้และการพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นการคาดคะเนว่า จำเลยอาจใช้อาวุธปืนไปในทางที่กระทำความผิดอื่นที่ร้ายแรงได้เป็นการใช้ดุลยพินิจนอกเหนือจากที่ปรากฏในท้องสำนวน เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 41)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371,91 ฯลฯ เรียงกระทงลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ปรับ 6,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ปรับ 4,000 บาทรวมลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุก1 ปี ปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 มีกำหนด2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นไว้ในความครอบครองและฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุกกระทงละ 6 เดือนสถานเดียว รวม 2 กระทง จำคุก1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยรวม 6 เดือน โทษจำคุกไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 34)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 41)

คำสั่ง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปีจำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น อันเป็นดุลพินิจในการลงโทษ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share