แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 3 ที่ 4 ฎีกา มีทางที่จะชนะคดีของโจทก์ได้โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน โดยจำเลยที่ 3 และที่ 4ขอถือเอาหลักทรัพย์เดิมที่จำเลยที่ 4 ได้วางไว้ต่อศาลเพื่อเป็นหลักประกันการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน ฯลฯ (อันดับ 76)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 480,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีในต้นเงิน 301,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดด้วยเพียงจำนวนเงิน 387,900บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีในต้นเงิน 246,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ฯลฯ คดีสำหรับจำเลยที่ 3 ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ชำระเงินจำนวน 480,800 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 3 ที่ 4 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 74,73)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ แต่จำเลยที่ 4 ไม่วางหลักประกันภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด และศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดีตามคำขอของโจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอวางสมุดเงินฝากธนาคารจำนวนเงิน 331,000 บาท และพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 100,000 บาท เป็นประกันการชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาในระหว่างอุทธรณ์ และขอให้งดการบังคับคดีไว้ก่อน ศาลชั้นต้นเห็นว่าหลักประกันของจำเลยที่ 4 เป็นที่พอใจแก่ศาล จึงให้ถอนการบังคับคดีสำหรับจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 4 ได้นำหลักประกันดังกล่าวมาวางศาล และได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้นแล้ว (อันดับ52,53,59,62,64)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 3 ที่ 4 หาประกันเพิ่มสำหรับจำนวนเงินที่ตนจะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมทั้งดอกเบี้ยจนถึงวันทราบคำสั่งนี้ มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้อง