แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 ฎีกา มีทางชนะคดีโปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 76)
คดีทั้งสามสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกันโดยเรียกนายสุรพงษ์พิบูลย์ลาภอุดม ว่า จำเลยที่ 1เรียกนางตุ๊บุญจีนว่าจำเลยที่3เรียกนายฮัวเต็กแซ่แต้ว่า จำเลยที่ 4
สืบเนื่องจากจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสามขาดนัดพิจารณาแล้วสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว และพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งสามและบริวารออกไปจากตึกแถวและบ้านพิพาท ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงินเดือนละ 2,000 บาทให้จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงินคนละเดือนละ 500 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสามจะออกไปจากตึกแถวและบ้านพิพาทจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่าจำเลยทั้งสามมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นสั่งว่าศาลได้แจ้งวันนัดชี้สองสถานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้ว แต่ในวันชี้สองสถานจำเลยไม่มาศาล ศาลได้ชี้สองสถานและนัดสืบพยานไปซึ่งตามกฎหมายถือว่าจำเลยทราบวันนัดสืบพยานแล้ว ถึงวันนัดสืบพยานจำเลยไม่มาศาลอีกโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบจึงต้องถือว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณา คำร้องที่ว่าจำเลยไม่ทราบวันนัดนั้นจึงเป็นอันตกไป อนึ่ง ในคำร้องของจำเลยก็มิได้กล่าวให้ครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้าย ให้ยกคำร้องของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 ฎีกาและยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 70,72)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้ทุเลาการบังคับ ให้ยกคำร้อง