แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 3 ขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันขอใช้หลักทรัพย์ที่ได้ยื่นไว้เดิมเป็นหลักประกัน
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3มีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357ให้ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี เฉพาะจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุก 1 ปี 4 เดือน และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก ยกฟ้องจำเลยที่ 2นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 65)
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 3ชั่วคราวชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตีราคาประกัน 70,000 บาท(อันดับ 4,51)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 3ฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 จำคุกไม่เกิน 5 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เพียงระบุวรรคของมาตราที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 3 เท่านั้น ส่วนโทษจำคุกคงลงเท่าเดิมจึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 และขณะนี้จำเลยที่ 3 ยังมิได้ยื่นฎีกา จึงไม่มีเหตุที่จะปล่อยชั่วคราวในระหว่างนี้ ให้ยกคำร้อง