คำสั่งคำร้องที่ 1523/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยข้อ 2.1 และข้อ 3 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การปรับบทกฎหมายของศาลแรงงานกลางไม่ถูกต้องเพราะมิได้นำข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบในสำนวนคดีมาวินิจฉัย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 38)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน24,960 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 6,240 บาทเงินสะสมจำนวน 7,346.20 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินดังกล่าว สำหรับค่าชดเชยนับตั้งแต่วันเลิกจ้างสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และเงินสะสมนับตั้งแต่วันฟ้องให้โจทก์ คำขออย่างอื่นของโจทก์ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 30)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 33)

คำสั่ง
อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์กระทำผิดซ้ำคำเตือนโดยอ้างคำพยานบุคคลขึ้นให้ศาลพิจารณาแล้วสรุปว่า เมื่อโจทก์กระทำผิดซ้ำคำเตือน จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านั้น เป็นอุทธรณ์ที่โต้เถียงดุลพินิจของศาลแรงงานกลางในการวินิจฉัยพยานหลักฐานถึงเหตุแห่งการเลิกจ้างว่าเป็นเพราะโจทก์มีความประพฤติไม่สุภาพเรียบร้อย ไม่เชื่อฟัง ไม่ให้เกียรติและความนับถือต่อผู้มีตำแหน่งสูงกว่าอันเป็นการผิดระเบียบว่าด้วยพนักงาน ข้อ 29.1 เป็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าจำเลยจะต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่ เป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share