แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งสามฎีกาขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา แต่ปรากฏว่า นายชัยกิจดีสมโชค โจทก์ที่ 2 ได้ถึงแก่กรรมไปเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2531 ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ที่ 2 ตามคำสั่งศาลแพ่งและเป็นโจทก์ในคดีนี้ด้วย มีความประสงค์ขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 2 ผู้มรณะเพื่อดำเนินคดีต่อไปจนถึงที่สุด โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยทั้งแปดได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 244,246)โจทก์ทั้งสามฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้ง 8 ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าขาดผลประโยชน์จากการประกอบธุรกิจเนื่องจากค่าเสียหายตามฟ้องข้อ 4.1.1 เป็นเงิน 30,000,000 บาทและต่อไปเป็นรายเดือน เดือนละ 2,500,000 บาท กับค่าเสียหายเท่ากับอัตราราคาเช่าบ้านและที่ดิน 21 หลัง เนื่องจากค่าเสียหายตามฟ้องข้อ 4.1.2 เป็นเงิน 828,000 บาท และต่อไปเป็นรายเดือน เดือนละ69,000 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินและขอถอนคำร้องที่ขอให้ศาลสั่งอายัด ห้ามทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินทั้ง 403 โฉนด และขอให้จำเลยทั้ง 8 ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายตามฟ้องข้อ 4.1.2(ก)(ข)(ค)และ(ง) เป็นเงิน 100,000,000บาท กับชำระค่าขาดประโยชน์และดอกเบี้ยที่ต้องเสียเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าเสียหายตามฟ้องข้อ 4.2 จำนวน 1,518,324.84 บาท ให้แก่โจทก์ทั้งสามพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสามฎีกา (อันดับ 218)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 241) โดยศาลชั้นต้นได้ไต่สวนคำร้องแล้ว จึงให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลฎีกาเพื่อสั่ง(อันดับ 248)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ผู้ร้องทั้งสองเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 2 ผู้มรณะได้ตามคำร้อง