แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วเห็นว่าโจทก์ไม่เป็นคนยากจน จึงให้ยกคำร้องและให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายใน 15 วันนับแต่วันมีคำสั่งมิฉะนั้นจะไม่รับฎีกาโจทก์ เนื่องจากระยะเวลาศาลชั้นต้นกำหนดดังกล่าวโจทก์ไม่สามารถหาเงินมาวางศาลได้ทันจึงยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมออกไปสักระยะหนึ่งซึ่งศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ขยายเวลาวางเงินอีก 2 ครั้ง โจทก์ขอขยายระยะเวลาเป็นครั้งที่ 3 อ้างว่ายังหาเงินไม่ทัน ศาลชั้นต้นสั่งว่าศาลได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลมาถึง 2 ครั้งแล้ว และในครั้งสุดท้ายศาลได้กำชับว่าจะไม่อนุญาตให้ขยายเวลาให้อีก จึงไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
โจทก์เห็นว่า การขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ให้ทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ เป็นอำนาจ ทั่ว ๆ ไปที่ศาลเห็นสมควรสั่งได้ ซึ่งศาลควรเปิดโอกาสให้คู่ความอย่างเต็มที่ คดีนี้โจทก์ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมเนื่องจากโจทก์ได้ถูกกรมสรรพากรยึดทรัพย์สินออกขายทอดตลาดซึ่งถือเป็นพฤติการณ์พิเศษที่โจทก์ไม่สามารถหาเงินมาวางศาลได้ทันอีกทั้งขณะนี้โจทก์กำลังประสบอุทกภัยอย่างรุนแรงอันเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่อาจป้องกันได้ ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์สูงทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลสูงตามไปด้วย และคดีของโจทก์มีทางชนะโปรดมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลแก่โจทก์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 188)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยทั้งสองคืนทองคำของกลางน้ำหนักประมาณ 33 กิโลกรัม มูลค่า 8,000,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 118,356.06 บาท แก่โจทก์ หากไม่สามารถคืนทองคำของกลางได้ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันชดใช้เงิน8,000,000 บาท และค่าเสียหายคิดเป็นดอกเบี้ยอีก 118,356.16 บาทแก่โจทก์ กับชดใช้ค่าเสียหายคิดเป็นดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 8,000,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าโจทก์ไม่เป็นคนยากจน ให้ยกคำร้อง หากโจทก์ประสงค์จะฎีกาให้นำค่าธรรมเนียมวางศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง มิฉะนั้นจะไม่รับฎีกาโจทก์ (อันดับ 138 แผ่นที่ 3 และแผ่นที่ 1, อันดับ 179)
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2501 ครั้งนี้ 2 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2531 ศาลชั้นต้นอนุญาต (อันดับ 181,182)
โจทก์ไม่ได้วางเงินค่าธรรมเนียมศาลภายในกำหนดตามที่ได้รับอนุญาต แต่ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินเป็นครั้งที่ 3ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตดังกล่าว (อันดับ 182 แผ่นที่ 3)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 183)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้คำร้องของโจทก์ระบุว่าขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งคำร้องก็ตาม แต่ถือได้ว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลฎีกา เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการที่จะรับหรือไม่รับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252 ศาลฎีกาพิจารณาเหตุผลตามที่โจทก์อ้างในคำร้องแล้ว เห็นว่ายังถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา จึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง คืนค่าขึ้นศาลโดยหักไว้เป็นค่าคำร้อง 40 บาท