คำสั่งคำร้องที่ 1779/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลย ยื่นฎีกาภายในกำหนด แต่ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไข และฎีกา ในส่วนที่เป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้น เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับ การวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 วรรคแรก ประกอบกับมาตรา 247 จึงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาใน ปัญหาข้อกฎหมายซึ่งได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว โดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 และเป็นสาระสำคัญแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย จากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 45,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 5 มีนาคม 2534 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ ดอกเบี้ยคำนวณ ถึงวันฟ้องแล้วไม่เกิน 10,125 บาท ตามขอ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 61,67)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลย นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234,247 แต่จำเลยมิได้นำเงินหรือหาประกันมาวางต่อศาลภายใน เวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด และยื่นคำร้องว่าได้นำ ค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลพร้อมกับยื่นฎีกาแล้ว กับได้ยื่นขอทุเลาการบังคับไว้ด้วย จึงขอถือเอา คำร้องขอทุเลาการบังคับเป็นประกันตามคำร้อง อุทธรณ์คำสั่ง และหรือแล้วแต่ศาลฎีกาจะมีคำสั่งต่อไป ศาลชั้นต้นจึงให้ส่งศาลฎีกาพิจารณา (อันดับ 65)

คำสั่ง
จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันมาวางศาล และการที่จำเลยได้ยื่น ขอทุเลาการบังคับไว้ด้วยก็จะถือเอาคำร้อง ขอทุเลาการบังคับเป็นการวางประกันดังกล่าวไม่ได้ การกระทำของจำเลยเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234,247 จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลย

Share