คำสั่งคำร้องที่ 1741/2537

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาไว้โดยไม่ชอบด้วยกระบวน พิจารณาแต่เมื่อศาลชั้นต้นยังไม่ได้ส่งสำนวนไปศาลฎีกา ศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณานั้นได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
ความว่า โจทก์ฎีกา คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2536 หากโจทก์จะฎีกาจะต้องยื่นฎีกาภายในวันที่ 13 มกราคม 2537 ปรากฏว่านายสมชาย ศรีโสธร ทนายความโจทก์ตามใบอนุญาตว่าความเลขที่ 13834 ซึ่งสภาทนายความได้ออกใบอนุญาตว่าความเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2529 และได้ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตว่าความครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2530 ขอต่ออายุใบอนุญาตว่าความ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2532 และขอต่ออายุใบอนุญาต ว่าความครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2534 ซึ่งใบอนุญาต ว่าความครั้งที่ 3 นี้จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2536 แต่นายสมชาย มิได้ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2536 และต่อมาจึงได้ยื่นขอต่อใบอนุญาตว่าความต่อ สภาทนายความ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2537 ปรากฏตามเอกสาร ท้ายคำร้อง ดังนั้น คำร้องที่นายสมชาย ศรีโสธร ยื่นต่อศาลเพื่อขออนุญาตให้โจทก์ขยายเวลายื่นฎีกา จึงไม่มีผลตามกฎหมาย เพราะนายสมชาย ศรีโสธร ไม่อยู่ในฐานะเป็นทนายว่าความให้แก่ผู้ใดได้ ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมที่ได้อนุญาตให้โจทก์ขยายเวลายื่นฎีกาและมีคำสั่งเพิกถอน การรับฎีกาของโจทก์ และถือว่าคดีถึงที่สุดแล้วเพราะไม่มีฎีกา
หมายเหตุ นายสมชาย ศรีโสธร ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 233)
ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่แล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา (อันดับ 225)
จำเลยยื่นคำแก้ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับแล้ว ต่อมาจำเลย ยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นนัดพร้อมเพื่อสอบถาม ในวันนัด นายสมชาย ศรีโสธร แถลงรับว่าในขณะยื่นคำแถลงขอขยายระยะเวลา ฎีกาใบอนุญาตว่าความขาดต่ออายุเนื่องจากหลงลืมและนายสมชาย ได้เป็นทนายความของโจทก์ดำเนินคดีมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ประกอบกับไม่พบตัวความจึงได้ยื่นคำแถลงขอขยายระยะเวลา ยื่นฎีกาไว้ก่อน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งศาลฎีกา เพื่อพิจารณา (อันดับ 231,234)

คำสั่ง
คดีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาไว้โดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณานั้นแม้ก่อนที่ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลฎีกาศาลชั้นต้นยังมีอำนาจสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาเสียได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ก็ตาม แต่เมื่อ ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งตามที่จำเลยยื่นคำร้องขอนี้ กลับส่ง สำนวนและฎีกาพร้อมคำร้องไปให้ศาลฎีกาพิจารณา กับศาลฎีกา ได้นำคดีลงสารบบความของศาลฎีกาไว้แล้วเช่นนี้จึงเป็นเรื่อง ที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยในชั้นทำคำพิพากษาต่อไป ในชั้นนี้ จึงไม่จำต้องสั่งคำร้องนี้ ให้ยกคำร้อง

Share