แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยยังมิได้ดำเนินการบังคับคดี จึงไม่ปรากฏเหตุที่ศาลจะสั่งตามคำร้องของ จำเลย ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับ การวินิจฉัย ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาที่มีสาระแก่คดีอันควร ได้รับการวินิจฉัยโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา พิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมว่า ข้อ 1.โจทก์และจำเลยจะหาคนมาซื้อที่ดินพิพาทในราคาไม่ต่ำกว่าตารางวาละ 15,000 บาท หากฝ่ายใดหาคนมาซื้อได้ในราคาที่สูงกว่า ก็ให้ขาย แก่ผู้ให้ราคาสูงสุด ถ้าไม่สามารถขายได้ตามราคาขั้นต่ำภายใน วันที่ 10 สิงหาคม 2535 ให้ทั้งสองฝ่ายนำที่ดินพิพาท ออกขายทอดตลาดทันทีแล้วนำเงินได้สุทธิจากการขายทอดตลาด แบ่งเป็น 5 ส่วนเท่า ๆ กัน แบ่งแก่นางจาริณีปิยะวัฒน์และจำเลยคนละหนึ่งส่วน แล้วนำเงิน 160,000 บาท จากส่วนที่เหลือ ใช้คืนแก่จำเลย เหลือเท่าใดให้แบ่งเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน เพื่อมอบแก่นายสุริพงษ์นายกรกับนางสุนิภา ภายใน 15 วันนับแต่วันขายทอดตลาด ซึ่งทนายโจทก์กับทนายจำเลยจะเป็นผู้ดำเนินการ โดยจำเลยจะโอนส่วนของตนในที่ดินโฉนดเลขที่ 4984 แขวงปากคลองภาษีเจริญ กรุงเทพมหานครแก่นางจาริณีในวันที่ได้รับเงินส่วนแบ่ง มิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ข้อ 2. โจทก์โดยทนายโจทก์ จะดำเนินการถอนฟ้องจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 5000/2534 ของศาลแพ่งธนบุรี ต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ สุดแต่คดีจะค้างพิจารณาอยู่ในศาลใด หากทนายโจทก์ บิดพริ้ว ให้ถือว่าฝ่ายโจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องส่วนได้ทั้งสี่ส่วน ตามความในข้อ 1 จากจำเลยอีก
จำเลยยื่นคำร้องว่า ทนายโจทก์บิดพลิ้วไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอม ขอให้สั่งว่าฝ่ายโจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องส่วนได้ทั้งสี่ส่วนตามความในสัญญาข้อ 1
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คู่ความชอบที่จะดำเนินการและบังคับคดี ให้เป็นไปตามคำพิพากษาตามยอมอยู่แล้ว ไม่มีเหตุที่ศาล จะสั่งคำร้องนี้
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 79)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 81)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์หมดสิทธิตามเงื่อนไขแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วเป็นคำขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงย้ำในผลแห่งคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้น หาใช่มีกรณีที่โจทก์ได้ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามผลแห่งคำพิพากษานั้นแล้วและจำเลยขอให้ศาลชั้นต้น ดำเนินวิธีการเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามผลแห่งคำพิพากษานั้น แต่ประการใดไม่ คำขอของจำเลยดังกล่าวจึงมิใช่คำขอให้ศาลชั้นต้น ดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาดังที่จำเลยเข้าใจ ฎีกาจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไร้สาระ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยถูกต้องแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยยกคำร้องจำเลย ค่าคำร้องเป็นพับ