แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้รับรองฎีกาผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่ากรณีไม่มีเหตุอันสมควรที่จะรับรองให้ฎีกา และมีคำสั่งฎีกาว่าศาลมีคำสั่งไม่รับรองให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกาคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา
จำเลยเห็นว่า คดีนี้โจทก์และจำเลยได้โต้แย้งสิทธิในที่ดินไม่ใช่โต้แย้งหรือพิพาทตามราคาที่ดินที่ฟ้องจึงเป็น คดีอันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ประกอบกับฎีกาของจำเลยมีปัญหาข้อกฎหมายอันเป็น สาระแก่คดีด้วยโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทำการจดทะเบียนแบ่งแยกโอนที่ดินตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 42 ตำบลนาแซง อำเภอเสลภูมิจังหวัดร้อยเอ็ดตามแผนที่พิพาทกลางเอกสารหมาย จ.5 บริเวณพื้นที่สีเขียวสีแดงและสีขาว ให้แก่โจทก์ (โดยในการแบ่งแยกที่ดินให้ถือแผนที่พิพาทเอกสารหมาย จ.5 เป็นเกณฑ์การแบ่งแยก)หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 64)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 67)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้ราคาทรัพย์สินที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท แม้จะเป็นคดีอันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรกที่แก้ไขใหม่ และฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ