คำสั่งคำร้องที่ 553/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเป็นสาระที่สมควรจะได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา และจำเลย ได้หาประกันสำหรับจำนวนเงินและค่าเสียหายตามคำพิพากษาของ ศาลชั้นต้น โดยนำหลักทรัพย์มาวางไว้ที่ศาลชั้นต้นแล้ว โปรดมี คำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน 17,633 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ให้จำเลยทั้งสองและ บริวารออกไปจากอาคารพิพาทเลขที่ 131/21-22 และใช้ค่าเสียหายเดือนละ 6,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองและบริวารจะออกไปจากอาคารพิพาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับ (อันดับ 223)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 234)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสอง ได้รู้และเข้าใจข้อความในสัญญาเอกสารหมาย จ.1 จ.2 ดีแล้วสัญญาจองอาคารพิพาท จึงไม่เป็นโมฆียะกรรมเพราะกลฉ้อฉลแต่อย่างใด การที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยทั้งสองไม่รู้และเข้าใจสัญญาจองเอกสารหมาย จ.1 จ.2 และโจทก์หลอกลวงจำเลยทั้งสอง สัญญาจองจึงเป็นโมฆียะกรรมเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมของโจทก์ชอบแล้วส่วนฎีกาของจำเลยทั้งสอง เกี่ยวกับฟ้องแย้งนั้น เห็นว่าฟ้องแย้งเป็นคดีฟ้องขอให้ ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ไม่ต้องห้าม ฎีกาในข้อเท็จจริง ให้รับฎีกาเกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง ไว้ดำเนินการต่อไป

Share