คำสั่งคำร้องที่ 1637/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14,31 ที่แก้ไขแล้วพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 75,76 ฯลฯรวม 3 กระทง ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ จำคุก 1 ปีจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือนความผิดฐานมีกัญชาแห้ง จำคุก 2 ปี ความผิดฐานผลิตกัญชา จำคุก 2 ปีคำให้การชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุกกระทงละ 1 ปี4 เดือน รวม 3 กระทง จำคุก 3 ปี 2 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ที่แก้ไขแล้วมาตรา 31 วรรคแรก กับให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาผลิตและมียาเสพติดให้โทษกัญชาไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา (อันดับ 88)
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 93)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวทั้งในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์ตีราคาประกัน260,000 บาท (อันดับ 4,68)

คำสั่ง
อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวระหว่างฎีกา ตีราคาประกัน260,000 บาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและดำเนินการต่อไป

Share