แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา มีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายรวมหลายประการ ที่ศาลฎีกาอาจมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 119)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 78,948.60 บาทพร้อมดอกเบี้ยอย่างธรรมดาร้อยละสิบห้าต่อปี นับแต่วันที่ 4พฤศจิกายน 2526 จนกว่าชำระเสร็จให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดในเงินจำนวน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยทบต้นร้อยละสิบห้าต่อปี นับแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2522 จนถึงวันที่ 3 กันยายน 2526 และดอกเบี้ยธรรมดาร้อยละสิบห้าต่อปี ของต้นเงิน 50,000 บาท ซึ่งรวมกับดอกเบี้ยทบต้นดังกล่าว นับแต่วันที่ 4 กันยายน 2526 จนกว่าชำระเสร็จและคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ให้หักเงินจำนวน 5,000 บาท ที่ได้ชำระแล้วในวันที่ 8 กันยายน 2526 ออกจากยอดเงินข้างต้นด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 106,108)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ แต่จำเลยที่ 2 ไม่นำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด (อันดับ 92,93)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 2 หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยดอกเบี้ยจนถึงวันทราบคำสั่งนี้และต่อไปอีก 2 ปี มาวางศาลจนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้อง