แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
 ความว่า จำเลยขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
 หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(2) การกระทำของจำเลยผิด 2 กรรม ให้เรียงกระทงลงโทษ ผิดตามคำฟ้อง ข้อ 1 ก. จำคุก 2 เดือน ผิดตามคำฟ้อง ข้อ 1 ข.จำคุก 3 เดือน รวมจำคุก 5 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 เดือน 10 วัน
 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
 จำเลยยื่นฎีกา ฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2533 ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นฎีกาข้อเท็จจริงแต่คดีนี้ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดเพื่อพิจารณาคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ อนุญาตให้ฎีกาข้อเท็จจริง (อันดับ 76)
 ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาอีกฉบับหนึ่ง ลงวันที่ 26 เมษายน 2533 ศาลชั้นต้นสั่งว่าให้เบิกจำเลยมาถามว่าจะใช้ฎีกาฉบับใด และสอบจำเลยแล้ว รับว่าได้ยื่นฎีกาทั้ง 2 ฉบับ โดยตนเองเป็นผู้ลงชื่อฎีกา (อันดับ 81)
 จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว และมีคำร้องประกอบของผู้ขอประกัน(อันดับ 84,83)
 จำเลยเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกามาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้อง (อันดับ 80)
 ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวทั้งในระหว่างการ พิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์ตีราคาประกัน 50,000 บาท (อันดับ 4,55)
 คำสั่ง
 คดีนี้ศาลฎีกามีคำสั่งจำหน่ายคดีแล้ว จึงไม่จำต้องสั่งคำร้องนี้

